‘คมนาคม’ วางมาตรการแก้จราจรบน ‘ถนนพระราม 2’ เร่งสร้าง 3 โปรเจกต์ ทล.-กทพ. เสร็จปี 68 ด้าน ‘หัวหิน‘ ยันท่องเที่ยวไม่ซบเซา

ทล.-กทพ. รุกแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบน “ถนนพระราม 2” วางมาตรการ-เร่งเครื่องก่อสร้าง 3 โครงการฯ มั่นใจแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ปี 68 ด้าน “นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน” ปัดกระแสท่องเที่ยวหัวหินซบเซา ลั่นนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติเพียบ ดันยอดเข้าพักโรงแรมโตต่อเนื่อง

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ไปดำเนินการหาแนวทางปฏิบัติ และดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) จากการก่อสร้างในเส้นทางดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจ และอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่พี่น้องประชาชน โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จึงได้สั่งการให้กรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณากำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดจากผลกระทบที่อาจจะเกิดจากการดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ 

ทั้งนี้ ในปัจจุบันบนโครงข่ายถนนพระราม 2 มีโครงการสำคัญที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างทั้งหมด 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการก่อสร้างทางยกระดับทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี-ปากท่อ ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย รับผิดชอบโดยกรมทางหลวง 2.โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว รับผิดชอบโดยกรมทางหลวง และ 3.โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก รับผิดชอบโดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งทั้ง 3 โครงการ มีความคืบหน้าการก่อสร้างงานโยธาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถเปิดให้ทดลองใช้บริการภายในปี 2568     

นายสราวุธ กล่าวต่อว่า สำหรับการก่อสร้างโครงการบนถนนพระราม 2 ใช้ระยะเวลานานนั้น เนื่องด้วยโครงข่ายจราจรบนเส้นทางดังกล่าว มีความสำคัญต่อการเดินทางสู่ภาคใต้ของประเทศไทย มีปริมาณการจราจรหนาแน่นมากกว่า 250,000 คัน/วัน ทำให้การปิดเบี่ยงพื้นที่ และบริหารจัดการจราจรในระหว่างการก่อสร้าง มีลักษณะทางกายภาพที่ค่อนข้างจำกัด และเป็นจุดตัดทางเข้า-ออก กับชุมชน ซอยต่างๆ ส่งผลให้มีการชะลอตัวของรถสะสมแต่ละบริเวณมากกว่าพื้นที่นอกเขตเมือง ทำให้ผู้รับจ้างดำเนินงานก่อสร้างได้ในอัตราความก้าวหน้าที่ล่าช้ากว่าพื้นที่ปกติอย่างมีนัยยะสำคัญ เพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบต่อผู้ใช้ทาง

นอกจากนี้ ยังได้มีการยกระดับมาตรการป้องกันความปลอดภัยระดับสูงสุด (Double Safety) ในพื้นที่การก่อสร้างทุกสัญญา ซึ่งผู้รับจ้างจำเป็นต้องปฏิบัติงานได้เฉพาะช่วงเวลากลางคืน หรือในช่วงเวลา 21.00 – 05.00 น. เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ใช้ทาง อีกทั้ง ได้พิจารณาการปรับแผนการดำเนินการของผู้รับจ้างแต่ละสัญญาให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาครอบคลุมตามที่ได้รับสิทธิ์เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งจากปัจจัยของความล่าช้าดังกล่าว กรมทางหลวงได้ทำการเร่งรัดติดตามการทำงานของผู้รับจ้างอย่างใกล้ชิด

ขณะที่โครงการของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) นั้น ระบุว่า กทพ. ได้กำกับและติดตามผู้รับจ้างทุกสัญญาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าประสงค์จะเร่งรัดการดำเนินงานก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด ซึ่งในเบื้องต้นจะเร่งรัดการดำเนินงานให้เปิดใช้สะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 (ช่วงต่างระดับบางโคล่-ถนนสุขสวัสดิ์) ได้ภายใน ก.ค. 2567 และเร่งรัดงานก่อสร้าง เพื่อให้เกิดความสะดวกต่อผู้ใช้ทางบนถนนพระราม 2 โดยคาดว่า จะสามารถดำเนินงานก่อสร้างช่วงทางหลัก (Mainline) ตั้งแต่ต้นทางถนนพระราม 2 ถึงบริเวณทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางกับโครงการทางยกระดับของกรมทางหลวงให้แล้วเสร็จได้ภายใน มิ.ย. 2568

ด้านนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า กรณีมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุรถติดจากถนนพระราม 2 จึงทำให้การท่องเที่ยวเมืองหัวหินซบเซานั้น ไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้การท่องเที่ยวในหัวหินยังคงคึกคัก สะท้อนจากในช่วงวันธรรมดาและวันหยุด มีนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย ยุโรป และจีนเดินทางมาท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของหัวหิน อาทิ บริเวณชายหาด ถนนคนเดินเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังได้เจรจากับผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมในเมืองหัวหินยังพบว่า อัตราเข้าพักยังคงอยู่ในระดับสูง รวมทั้งยังมั่นใจว่า รายได้ที่จะเข้ามายังเมืองหัวหินยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องด้วยเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับต้นของประเทศไทย พร้อมกันนี้ ยังได้ชื่นชมกระทรวงคมนาคม ที่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีคุณภาพในทุกภาคส่วน และหวังว่าการจัดทำผิวจราจรด้านล่างจะแล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้การจราจรของประชาชาและนักท่องเที่ยวมีความราบรื่นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ที่จะถึงนี้