‘สุริยะ’ ตั้งเป้าดัน ‘สุวรรณภูมิ’ ติด Top 20 ของโลกภายใน 3-4 ปีนี้ เผยมาตรการ Visa Free หนุนไฟล์ทบินขาเข้าแตะวันละ 1,040 เที่ยวบิน

“สุริยะ” ลงพื้นที่ตรวจ “สุวรรณภูมิ” กำชับทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรองรับผู้โดยสารทุกมิติ เผย Visa Free หนุนยอดไฟลท์ขาเข้าล่าสุดพุ่งแตะวันละ 1,040 เที่ยวบิน อัปเดต ตม. เพิ่มเจ้าหน้าที่รวม 600 นายภายใน พ.ค.นี้ ตั้งเป้าดัน ทสภ. ติด Top 20 ของโลก ภายใน 3-4 ปีนี้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเดินทางตรวจติดตามความคืบหน้าตามข้อสั่งการในการเตรียมพร้อมการให้บริการผู้โดยสารช่วงเทศกาลตรุษจีน และการแก้ไขปัญหาความหนาแน่นในการรอคิวตรวจหนังสือเดินทางรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลตรุษจีน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) วันนี้ (10 ก.พ. 2567) ว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2567 ระหว่างวันที่ 4-16 ก.พ. 2567 คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงได้สั่งการให้ ทอท. ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในทุกมิติ

โดยให้มีการจัดเจ้าหน้าที่คอยกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การบริการผู้โดยสารในภาพรวมเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็ว ทั้งนี้จากที่ได้เริ่ม มาตรการ Visa Free ขณะนี้ได้มีเที่ยวบินขาเข้าสูงถึง 1,040 เที่ยวต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งมั่นใจว่าประเทศไทยจะสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน เตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีเกิดเหตุขัดข้อง และให้ใช้เทคโนโลยีทันสมัย เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ รองรับและสนับสนุนนโยบายการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของรัฐบาล อีกทั้งยังได้ให้ทาง ตม.2 เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ให้บริการจุดตรวจคนเข้าเมืองทุกช่องบริการให้เพียงพอในการรองรับการใช้บริการผู้โดยสารในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยได้มีการเสริมเจ้าหน้าที่เวรปฏิบัติงานนอกเวลา และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตม. จากจังหวัดต่าง ๆ เข้ามาช่วยปฏิบัติงานที่ ทสภ.

นอกจากนี้ ยังได้มีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกหน่วยปฏิบัติงานมาเป็นเจ้าหน้าที่ ตม.2 กว่า 60 นาย รวมทั้ง ตม.2 ได้มีการบรรจุเจ้าหน้าที่ใหม่แล้วจำนวน 200 อัตรา ขณะนี้อยู่ในระหว่างการอบรมภาคทฤษฎีคาดว่าจะสามารถ เริ่มปฏิบัติงานได้จริงตั้งแต่ 1 มี.ค. 2567 รวมทั้งยังมีแผนที่จะขอบรรจุอัตรากำลังเพิ่มอีก 400 อัตรา รวมเป็น 600 อัตราใน พ.ค. 2567

อีกทั้ง ให้ตรวจสอบความพร้อมของช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ หรือ Automatic channels โดยวางมาตรการในการป้องกันการขัดข้องของระบบ Biometric พร้อมให้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของระบบตลอด 24 ชม. รวมถึงได้มีการเปลี่ยนเครื่องลูกข่ายหน้าช่องตรวจทุกช่องทั้งขาเข้า ขาออก ทำให้ระบบการทำงานดีขึ้น และในระยะยาวทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) จะได้จัดหาระบบใหม่ทดแทนเป็นระบบเดียว คือ ระบบ TIS (Thailand Immigration System) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจลงตราซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น                         

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 นั้น เตรียมเปิดใช้งานได้ใน ก.ค. 2567 ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานจะเพิ่มศักยภาพในการรองรับเที่ยวบินของ ทสภ. จากเดิม 67 เที่ยวบิน/ชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบิน/ชั่วโมง ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพของท่าอากาศยานหลักของไทยในการรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยตามแผนยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาคหรือ Aviation Upgrade ของรัฐบาลเพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการบินของภูมิภาค

ในช่วง 20 ปีก่อน สนามบินสุวรรณภูมิ เคยติดอันดับ 7 ของโลก แต่ในปัจจุบันนี้ตกไปอยู่อันดับที่ 76 ของโลก สาเหตุจากการถดถอยของการให้บริการ ดังนั้นผมได้ให้นโยบายต่างๆ เพื่อปรับปรุงแก้ไขต้องเร่งปรับเปลี่ยนโดยเร็ว เพื่อให้สนามบินสุวรรณภูมิ เลื่อนอันดับขึ้นมาติด 1 ใน 20 ของโลกให้ได้ภายใน 3-4 ปีนี้“ นายสุริยะ กล่าว

สำหรับการเปิดใช้อาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1 หรือ อาคาร SAT-1 ขณะนี้มีสายการบินหลายสายได้ย้ายไปให้บริการที่อาคาร SAT-1 เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันมีเที่ยวบินเฉลี่ยต่อวันกว่า 86 เที่ยวบิน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้คาดว่าภายในสิ้นดือน ก.พ. 2567 จะมีปริมาณเที่ยวบินเพิ่มขึ้นเป็น 112 เที่ยวบิน และจะมีสายการบินมาใช้บริการเพิ่มขี้นเป็น 16 สายการบินจากเดิม 13 สายการบิน

ด้านนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ทอท.คาดการณ์ว่า ในช่วง 10 วันของช่วงตรุษจีน 2567 จะมีปริมาณผู้โดยสารคนจีนเพิ่มขึ้นจากปี 2566 เป็น 37,000 คน จาก 20,000 คน ซึ่งเป็นผลดีจากนโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาล โดยในส่วนมาตรการรองรับการเดินทางที่เพิ่มขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกและลดความแออัดให้กับผู้โดยสาร ทอท.ได้ประสานกับผู้ประกอบการให้เปิดเวลาเช็คอินล่วงหน้าให้เร็วขึ้นจาก 3 เป็น 4 ชั่วโมง