เปิดตัว! ‘รถเมล์ EV สีส้ม’ วิ่งให้บริการ 60 คัน รวม 10 เส้นทาง ค่าโดยสาร 10 บาทตลอดสาย

ไทย สมายล์ กรุ๊ป” เปิดตัว ”รถเมล์ EV สีส้ม“ ค่าโดยสาร 10 บาทตลอดสาย เตรียมวิ่งให้บริการ 60 คัน รวม 10 เส้นทาง เผยปัจจุบันฟีดรถเมล์แอร์ไฟฟ้ากว่า 2,200 คัน คาดปี 67 เพิ่มรถเป็น 3,100 คัน มีผู้โดยสารวันละ 5 แสนคน พร้อมเตรียมใช้เทคโนโลยี แก้ปัญหารถไม่จอดรับผู้โดยสาร

นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทย สมายล์ กรุ๊ป เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินงานของไทยสมายล์บัสตลอด 3 ไตรมาสของปี 2566 ที่ผ่านมาว่า การพัฒนาธุรกิจในเครือไทยสมายล์กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันไทย สมายล์ กรุ๊ปมีเส้นทางให้บริการ ทั้งสิ้น 123 เส้นทาง รวมถึงการเพิ่มจำนวนรถวิ่งให้บริการจาก 800 คัน ในช่วงต้นปี 2565 เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2,200 คัน มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยมากกว่า 300,000 คน/วัน

ขณะเดียวกัน ไทยสมายล์บัสยังได้เพิ่มความถี่ เพิ่มจำนวนรถ เพิ่มจำนวนรอบ ไปจนถึงการขยายเวลาการวิ่งให้บริการเป็น 24 ชั่วโมง (ชม.) ใน 4 เส้นทางด้วย ส่วนแผนระยะยาวนั้น ไทยสมายล์ัสมีแผนขยายการให้บริการในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการวิ่งรถในเส้นทางใบอนุญาตปัจจุบัน และการขยายให้บริการรูปแบบ Feeder เชื่อมต่อการขนส่ง ทั้งรถ-เรือ-ราง อีกทั้งยังเพิ่มการให้บริการกลุ่มลูกค้าองค์กรต่างๆ ซึ่งในปี 2567 เชื่อว่า จะมีรถเข้ามาให้บริการเพิ่มเป็น 3,100 คันตามเป้าหมายที่วางไว้ และคาดการณ์ว่าจะมียอดผู้โดยสารใช้งานเฉลี่ยมากกว่า 500,000 คน/วัน

นางสาวกุลพรภัสร์ กล่าวต่อว่า ส่วนความเห็นของผู้ใช้บริการที่อาจยังพบกับความไม่สะดวกในบางส่วน เช่น ไม่จอดรับผู้โดยสาร วิ่งเลนขวา เป็นต้น บริษัทฯ ได้รับฟังความเห็นดังกล่าว และได้ดำเนินการแก้ไขต่อเนื่อง อีกทั้ง บริษัทได้ลงทุนสร้างศูนย์ฝึกอบรมครบวงจร ที่จะปั้นพนักงานขับรถ “กัปตันเมล์” รุ่นใหม่เข้ามาให้บริการด้วยมาตรฐานที่ยกระดับขึ้น รวมถึงปรับสิทธิประโยชน์รายได้ของพนักงานให้สอดคล้องกับพฤติกรรม นอกจากนี้ บริษัทได้เริ่มทดลองใช้ระบบกำกับการเดินรถ สามารถตรวจการเข้าป้าย ความเร็ว ปริมาณผู้โดยสารบนรถ ไปจนถึงการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ขับขี่-พนักงานผู้ให้บริการด้วย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เปิดตัว รถเมล์ไฟฟ้าราคาประหยัด หรือ “รถ EV สีส้ม” ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของภาครัฐ ที่มีกำหนดนโยบายว่าเอกชนผู้ได้รับใบอนุญาต ต้องดำเนินการจัดหาให้มีรถร้อน ออกให้บริการประชาชนเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดหามาทั้งสิ้นจำนวน 60 คัน เพื่อนำไปเสริมการเข้าถึงบริการขนส่งมวลชนให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น

ทั้งนี้ ในระยะแรกจะให้บริการใน 10 เส้นทาง จากนั้นจะศึกษาผลตอบรับ เพื่อนำไปพัฒนาการให้บริการต่อไปในอนาคต ด้วยอัตราค่าโดยสาร 10 บาทตลอดสาย ตามข้อกำหนดใบอนุญาตของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)  ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถชำระค่าโดยสารได้ทั้งรูปแบบ HOP Card ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ เดลิ แมกซ์ แฟร์ เดินทางไม่จำกัดในราคาเพียง 40 บาทตลอดสาย ไปจนถึงการชำระด้วยรูปแบบเงินสด

ในส่วนของการพัฒนาของไทย สมายล์ โบ้ทนั้น ได้มีการเสริมฟีดเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า รูปแบบใหม่ ขนาด 19 เมตร เป็นเรือ Catamaran พลังงานสะอาด 100% ซึ่งมีความแตกต่างในทางกายภาพจากเรือรูปแบบเดิมของบริษัท ด้วยขนาดที่กระทัดรัดคล่องตัวมากขึ้น เหมาะที่จะเดินเรือในเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยาได้ในทุกสภาพอากาศแม้ช่วงน้ำขึ้น ปัจจุบันได้รับเพิ่มมาแล้วจำนวน 9 ลำ ส่งผลให้บริษัทมีฟลีทเรือให้บริการทั้งสิ้น 35 ลำ

โดยจะเข้าไปบริการในเส้นทาง Urban และ City Line ก่อนในช่วงแรก แล้วจึงขยายไปเส้นทาง Metro Line ตามความต้องการของผู้โดยสารในแต่ละเส้นทาง สร้างความสะดวกสบายให้แก่ผู้เดินทาง โดยเฉพาะช่วงชั่วโมงเร่งด่วน คาดว่าจะสามารถเพิ่มความถี่ให้บริการได้ ทุก 7-10 นาที พร้อมทั้งยังสามารถให้บริการกับลูกค้าองค์กร เช่น การเช่าเหมาลำ การวิ่งตามฟีดเส้นทาง หรือเรือนำเที่ยว ฯลฯ ได้อีกด้วย