ชง ครม. เห็นชอบ พ.ร.บ.รางฯ สิ้นปีนี้ คาดมีผลบังคับใช้ปี 67 ลุ้นสัปดาห์หน้าไฟเขียวสร้างสีแดงส่วนต่อขยาย ‘รังสิต-มธ.’ ส่วนไฮสปีดไทย-จีน เสร็จปี 69

“สุรพงษ์” บุกมอบนโยบาย “กรมรางฯ” คาดเสนอ ครม. เห็นชอบภายในสิ้นปีนี้ ก่อนมีผลบังคับใช้ปี 67 คุมค่าโดยสารเป็นธรรม ประชาชนใช้ระบบรางปลอดภัย ลุยสร้างสายสีแดงส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง ประเดิม “รังสิต-มธ.” ลุ้น ครม.ไฟเขียวสัปดาห์หน้า พ่วงอีก 2 เส้นทางภายใน พ.ย.นี้ ส่วนไฮสปีดไทย-จีน คืบหน้า 27% วางเป้าเสร็จปี 69

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยม และมอบนโยบายกรมการขนส่งทางราง (ขร.) วันนี้ (19 ต.ค. 2566) ว่า สำหรับความคืบหน้าของร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ…. นั้น คาดว่า จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ภายในสิ้นปี 2566 ทั้งนี้ ที่ผ่านมา พ.ร.บ.การขนส่งทางรางฯ ได้มีการเสนอร่างฯ วาระที่ 1 ไปแล้ว แต่ถูกตีกลับ เนื่องจาก พ.ร.บ.ฯ มีระยะเวลาในการพิจารณาร่างประมาณ 90 วัน ซึ่งตรงกลับช่วงหมดสมัยรัฐบาลชุดก่อน จึงเสนอไม่ทัน

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะต้องเสนอ พ.ร.บ.ฯ กลับเข้าสภาผู้แทนราษฎร ในวาระที่ 1 อีกครั้ง เมื่อผ่านวาระที่ 1 แล้ว จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฯ ก่อนเข้าสู่วาระที่ 2-3 ก่อนนำขึ้นทูลเกล้า อย่างไรก็ตาม คาดว่า พ.ร.บ.ฯ จะมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2567 อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานปรับปรุงเรื่องข้อกฎหมายให้มีความทันสมัย และสอดคล้องกับปัจจุบัน อาทิ ต้องหาวิธีการแก้ไขปัญหาในกรณีการออกใบขับขี่แบบไร้คนขับด้วย

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ได้ฝากให้ ขร.ดำเนินการติดตาม และประเมินผลหลังจากที่กระทรวงคมนาคมประกาศใช้นโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ในรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วง รวมถึงการพัฒนาโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ทั้ง 3 เส้นทาง ได้แก่ 1.ช่วงรังสิต–มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต คาดว่า จะบรรจุวาระ ครม. เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการ และกรอบวงเงินในวันที่ 24 ต.ค. 2566

2.ช่วงตลิ่งชัน–ศาลายา โดย ขร. เตรียมเสนอมายังกระทรวงคมนาคมช่วงต้นสัปดาห์หน้า และคาดว่า จะเสนอ ครม.ได้ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ และ 3.ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช อยู่ระหว่างรอตอบกลับจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) คาดว่า จะเสนอ ครม.ได้ในช่วง พ.ย. 2566 เพื่อให้เป็นไปตามแผนการเปิดให้บริการภายในปี 2570

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ไทย-จีน ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร (กม.) นั้น ปัจจุบันภาพรวมโครงการฯ มีความคืบหน้าประมาณ 27% ซึ่งตามแผนต้องแล้วเสร็จภายในปี 70 ทั้งนี้ ได้เร่งรัดและแก้ไขปัญหาสัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กม. ที่ยังติดประเด็นเรื่องพื้นที่ทับซ้อนการดำเนินงานกับโครงการรถไฟไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา)

อีกทััง สัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กม. ที่ยังรอความชัดเจนเรื่องการสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ซึ่งในประเด็นนี้ตนจะเป็นผู้เจรจากับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยด้วยตัวเอง เชื่อว่าจะมีทางออกอย่างแน่นอน โดยในเบื้องต้นการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะดำเนินการลงทุนสร้างทางรถไฟ เพื่อให้วิ่งผ่านสถานีอยุธยาไปก่อน อย่างไรก็ตาม สั่งการให้แก้ไขปัญหาต่างๆ ให้จบภายในสิ้นปี 2566

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการมอบนโยบาย ขร.วันนี้ นายสุรพงษ์ ได้เร่งรัดให้การก่อสร้างโครงการรถไฟไฮสปีด ไทย-จีน ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 หรือเร็วกว่าแผนที่กำหนดจะแล้วเสร็จในปี 2570