‘สุริยะ‘ สั่งเข้มความปลอดภัย ระบบขนส่งสาธารณะ ’บก-น้ำ-ราง-อากาศ‘ สแกนตั้งแต่ทางเข้าอาคาร-สถานี พร้อมให้จับตาสถานการณ์น้ำท่วม ช่วยเหลือประชาชนทันที

“สุริยะ” สั่งหน่วยงานให้บริการขนส่งสาธารณะ “บก-น้ำ-ราง-อากาศ” เข้มงวดด้านความปลอดภัย ตั้งแต่ทางเข้าอาคาร-สถานีฯ จัดเจ้าหน้าที่ฯ คอยอำนวยความสะดวกประชาชน พร้อมสั่งการเตรียมรับมือฝนตกหนัก จากอิทธิพลร่องมรสุม ช่วงวันนี้-14 ต.ค.นี้ แจ้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชม. เตรียมเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันที

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่ให้บริการด้านระบบการขนส่งสาธารณะ ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ เข้มงวดด้านความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกต่อผู้โดยสารในทุกมิติ เนื่องจากมีผู้ใช้บริการในแต่ละสถานที่เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ จัดให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คอยดูแล และตรวจความสอบความสงบเรียบร้อย รวมถึงพิจารณาหากมีความจำเป็นต้องติดตั้งเครื่องเอกซเรย์วัตถุอันตราย หรืออาวุธ บริเวณด้านหน้าทางเข้าอาคารหรือสถานี และเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชน ในทันทีหากเกิดกรณีฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชน เมื่อพบความผิดปกติหรือสงสัย โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่บริเวณดังกล่าว และสามารถแจ้งหรือขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วน 1356 กระทรวงคมนาคม


ส่วนกรณีที่กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า จากอิทธิพลร่องมรสุมและหย่อมความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทย โดยขอให้เฝ้าระวังฝนตกต่อเนื่องและฝนตกหนักจากอิทธิพลดังกล่าว โดยในช่วงวันที่ 5-9 ต.ค. 2566 บริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง (กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล) และภาคตะวันออกในช่วงวันที่ 10-14 ต.ค. 2566 ส่งผลให้ระยะนี้ อากาศจึงมีความแปรปรวนสูงนั้น

นายสุริยะ กล่าวว่า จากอิทธิพลร่องมรสุมและหย่อมความกดอากาศต่ำดังกล่าว ตนจึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามแผนป้องกันสาธารณภัยอย่างเคร่งครัด โดยเตรียมความพร้อมในการป้องกัน, การฟื้นฟู และการเยียวยาหลังสถานการณ์คลี่คลายในทุกมิติ

นอกจากนี้ ให้เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง (ชม.) เพื่อช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที อีกทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลการดำเนินงานมายังกระทรวงฯ รับทราบทุกวัน รวมถึงมอบหมายให้ประชาสัมพันธ์การดำเนินการไปยังประชาชนให้รับทราบด้วย

อย่างไรก็ตาม ประชาชนผู้ประสบเหตุอุทกภัย สามารถขอรับการช่วยเหลือจากกระทรวงฯ ได้ที่สายด่วนติดต่อขอความช่วยเหลือ (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.) ได้แก่ สายด่วน 1356 กระทรวงคมนาคม, สายด่วน 1586 กรมทางหลวง, สายด่วน 1146 กรมทางหลวงชนบท, สายด่วน 1690 การรถไฟแห่งประเทศไทย และสายด่วน 1199 กรมเจ้าท่า