ลอรีอัล ลุย Beauty Tech ยกระดับความงาม

ลอรีอัล เดินหน้าแถลงข้อมูลตลาดอุตสาหกรรมความงามในประเทศไทยเชิงลึก พร้อมประกาศความมุ่งมั่นในการเป็นผู้บุกเบิกด้าน Beauty Tech ตั้งเป้าคิดค้นนวัตกรรมความงามแห่งอนาคต โดยใช้เทคโนโลยีด้านดิจิทัล เพื่อส่งมอบประสบการณ์ด้านความงามที่เหนือระดับให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย

ในปี 2561 ที่ผ่านมา ตลาดความงามในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตมากกว่าปี 2560 อยู่ที่ร้อยละ 7.3 ด้วยมูลค่าตลาดรวมกว่า 1.92 แสนล้านบาท ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวยังครองส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้สูงที่สุด ในขณะที่กลุ่มเครื่องสำอางยังคงเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เติบโตมากที่สุดในอุตสาหกรรม โดยประเทศไทยนับเป็นประเทศที่ตลาดความงามใหญ่ที่สุดในอาเซียน และ ลอรีอัล ประเทศไทย นับเป็นสาขาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ และยังคงครองตำแหน่งผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าในประเทศไว้ได้อย่างเหนียวแน่นอีกด้วย

นางอินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “อุตสาหกรรมความงามในประเทศไทยนั้นมีความคึกคัก และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ประมาณร้อยละ 7 มาเป็นเวลาติดต่อกันกว่า 5 ปีแล้ว โดยทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์ด้านความงามได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคมากที่สุดประเภทหนึ่งบนช่องทางออนไลน์ นอกเหนือจากนั้น การผสมผสานระหว่างความงามและโลกดิจิทัลเอง ก็ก่อให้เกิดยุคแห่งการแชร์ข้อมูลและการแสดงออกถึงความเป็นตัวตนดั่งที่เราเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ในปัจจุบัน โลกดิจิทัลได้เป็นปัจจัยเร่งสำคัญที่ช่วยสร้างการเติบโตและสร้างเทคโนโลยีด้านข้อมูลใหม่ๆ ในขณะที่ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เองได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ สามารถกล่าวได้ว่าผลิตภัณฑ์ด้านความงามกำลังก้าวเข้าสู่โลกแห่งเทคโนโลยีมากขึ้นเรื่อยๆ และด้วยเล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงนี้  ลอรีอัล จึงพร้อมขับเคลื่อนบริษัทฯ ให้ก้าวสู่การเป็นผู้บุกเบิกและผู้นำในโลก Beauty Tech นี้อย่างเต็มกำลัง”

เพื่อให้ ลอรีอัล ประเทศไทย สามารถบรรลุเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้าน Beauty Tech  บริษัทฯ ได้เริ่มนำร่องเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการด้านความงามอันหลากหลายของผู้บริโภค หนึ่งในนั้นคือนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ใหม่ล่าสุดอย่าง EFFACLAR SPOTSCAN จาก ลา โรช-โพเซย์ ที่จะช่วยวินิจฉัยปัญหาสิวพร้อม

กับคำแนะนำการดูแลผิวรายบุคคล โดย EFFACLAR SPOTSCAN จะเริ่มให้บริการวิเคราะห์ปัญหาผิวแก่ผู้บริโภคชาวไทย ในเดือนเมษายนนี้ นอกจากนี้ ลอรีอัล ยังไม่หยุดนิ่ง เดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตรในการนำเสนอนวัตกรรมใหม่อย่าง ColorMe การทดลองแต่งหน้าเสมือนจริงด้วยเทคโนโลยี ModiFace ของลอรีอัล เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ลองผลิตภัณฑ์แต่งหน้าเสมือนจริงกว่า 300 รายการ ตั้งแต่รองพื้นไปจนถึงลิปสติก  โดยผู้บริโภคชาวไทยจะสามารถใช้ ColorMe ผ่านแอปพลิเคชั่นของวัตสันได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้ โดยแบรนด์เครื่องสำอางที่จะมีให้บริการบนแอปพลิเคชั่นคือ ลอรีอัล ปารีส และ เมย์เบลลีน นิวยอร์ก

นวัตกรรมของลอรีอัล ได้รับการคิดค้นและพัฒนาขึ้นจากการรับฟังเสียงของผู้บริโภค  บริษัทฯ มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านความงามของผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็เพิ่มคุณค่าให้แก่ไลฟ์สไตล์ของพวกเขาด้วย บริษัทฯ ผสานรวมความงามและเทคโนโลยีอย่างไร้ขีดจำกัดและไร้รอยต่อเพื่อสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจในโลกที่กำลังหมุนไปข้างหน้า

“เรายังคงประสบความสำเร็จในปี 2561 โดยเติบโตค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม ความสำเร็จของเราเกิดจากการมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศในด้านต่างๆ อันประกอบด้วย การให้ความสำคัญสูงสุดกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การมุ่งเน้นความพึงพอใจและการสร้างสรรค์ประสบการณ์ของผู้บริโภค การบุกเบิกด้านดิจิทัลเพื่อมอบบริการทางด้านความงามอย่างไร้ขีดจำกัด ทั้งในช่องทางปกติและทางออนไลน์ การบ่มเพาะทีมงานคุณภาพที่มีความมุ่งมั่นและใจที่รักในงาน ขณะเดียวกันก็เน้นสร้างความยั่งยืนในห่วงโซ่คุณค่าไปพร้อมๆ กับการสนับสนุนชุมชนและสังคม”

สำหรับอุตสาหกรรมความงาม การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลถือเป็นปัจจัยบวก เนื่องจากดิจิทัลกลายเป็นหนึ่งในช่องทางสำคัญที่ช่วยเพิ่มการเติบโตให้แก่ตลาด ในขณะที่ลอรีอัลกำลังก้าวไปข้างหน้าด้วยพอร์ทผลิตภัณฑ์ความงามระดับไอคอนจำนวนมาก ฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจคือพนักงาน เมื่อดิจิทัลกลายเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ พนักงานทุกๆ คนได้รับการปลูกฝังแนวคิดและวิธีการทำงานในยุคดิจิทัล แนวคิดนี้หยั่งรากในทีมงานของ  ลอรีอัลในทุกๆ แบรนด์ ในทุกๆ แผนก และทุกๆ สายงานภายในองค์กร ลอรีอัลกลายเป็นหนึ่งในองค์กรที่ดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถและเปี่ยมด้วยเป้าหมายในการทำงาน ลอรีอัลตั้งเป้าเป็นสถานทำงานในอุดมคติ ที่พนักงานทุกคนจะสามารถฝึกฝน เติบโต และพัฒนาไปพร้อมๆ การทำงานที่ผลของงานมีความชัดเจนและมีคุณค่าต่อความสำเร็จขององค์กร

“กลยุทธ์ของเรามุ่งเน้นในเรื่องนวัตกรรม คุณภาพ แบรนด์ที่ยอดเยี่ยม ผลิตภัณฑ์เรือธง และเหนืออื่นใดคือบุคลากรผู้เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ ในโลกที่ดิจิทัลมีบทบาทสำคัญ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นหลักในการผลักดันองค์กรให้ก้าวสู่ชัยชนะในโลกยุคใหม่ เราสนุกกับโลกใบใหม่และตื่นตัวพร้อมรับยุคดิจิทัลนี้ โดยเราจะยังคงดำเนินงานด้วยหลักความเป็นเลิศในทุกๆ ด้าน เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจและพร้อมๆ ไปกับการเป็นองค์กรตัวอย่าง” นางอินเนสกล่าว