เชิญทางนี้! กทพ.ชวนเอกชนลงทุนพัฒนาพื้นที่ ‘เขตทางด่วน’ 17 แปลง คาดเปิดให้บริการในปี 70

กทพ.” เปิดรับฟังความเห็นเอกชนนำร่องลุยพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ 17 แปลง เล็งเปิดประมูลภายในปี 67 ดึงเอกชนร่วมทุน PPP-เช่าพื้นที่ มั่นใจคืนทุน 3-4 ปี คาดเปิดให้บริการในปี 70

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า กทพ. ได้จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นเบื้องต้นของภาคเอกชน ภายใต้โครงการประเมินความสนใจของนักลงทุน (Market Sounding) ในการพัฒนาพื้นที่ในเขตทางพิเศษที่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ โดย กทพ. ในฐานะรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคมได้รับมอบหมายให้ดำเนินงานธุรกิจทางพิเศษและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรที่คับคั่งให้มีการเคลื่อนไหวที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการเดินทางแก่ประชาชน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการก่อสร้างทางพิเศษ (ทางด่วน) ส่วนใหญ่จะเป็นทางยกระดับเกือบทั้งหมด ทำให้มีพื้นที่ใต้ทางยกระดับตลอดแนว และเพื่อเป็นประโยชน์ในการพัฒนาพื้นที่ในเขตทางพิเศษอย่างเหมาะสมและคุ้มค่า เบื้องต้น กทพ. ได้จัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาพื้นที่ในเขตทางพิเศษ และใช้ระบบภูมิสารสนเทศเก็บข้อมูลและจำแนกการใช้พื้นที่โดยครอบคลุมที่ดินของหน่วยงานอื่น พื้นที่ใช้ประโยชน์ และพื้นที่ว่างไม่ได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งจะเป็นแนวทางในการพัฒนาและบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและคุ้มค่าต่อไป

โครงการนี้ถือเป็น Challenge ให้กทพ. เนื่องจากในปัจจุบันกทพ.มีพื้นที่ที่ใช้ประโยชน์เหลือประมาณ 1,500 ไร่ จากเดิมมีพื้นที่ประมาณ  3,000 ไร่ ซึ่ง กทพ.ได้นำมาใช้เพื่อสาธารณประโยชน์แล้ว 37%และใช้เชิงพาณิชย์ 9% จึงยังมีพื้นที่ที่จะนำมาพัฒนาได้อีกมากกว่า53 % โดยมีเป้าหมายเพิ่มการนำพื้นที่ศักยภาพมาดำเนินการพัฒนาเพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์ควบคู่สาธารณประโยชน์ไม่น้อยกว่า10 %ต่อปีนายสุรเชษฐ์ กล่าว

นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า หลังจากเปิดรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้แล้วเสร็จ เบื้องต้นกทพ.จะสรุปความคิดเห็นของเอกชน โดยจะเสนอต่อกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบได้ต่อเมื่อมูลค่าของโครงการเกิน 100 ล้านบาท ทั้งนี้ กทพ.จะนำร่องเปิดประมูลบนพื้นที่บริเวณในเมือง จำนวน 17 แปลง ที่มีศักยภาพก่อน เช่นสีลม,เพลินจิต,วัชรพล,อโศก ฯลฯ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเปิดประมูลได้ภายในปี 2567

โดยใช้รูปแบบการลงทุนมีหลายรูปแบบ เช่น การเปิดประมูลเช่าพื้นที่ สัญญาสัมปทาน 3 ปี ,การเปิดประมูลในรูปแบบ PPP สัญญาณสัมปทาน 5-20 ปี ระยะเวลาการคืนทุน 3-4 ปี ทั้งนี้การประมูลทุกโครงการฯมีเงื่อนไขว่า การก่อสร้างต้องไม่กระทบต่อทรัพย์สินของกทพ.เสียหาย คาดว่าทั้ง 17 พื้นที่ จะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2570

สำหรับการกำหนดพื้นที่ศักยภาพที่สามารถพัฒนาเชิงพาณิชย์ 25 พื้นที่ มีขนาดพื้นที่ 338 ไร่ ที่ดิน 1,144 แปลง โดยเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมในการพัฒนา 17 พื้นที่ ที่ดิน 530 แปลง ส่วนพื้นที่ที่ยังมีผู้เช่ารายย่อย จำนวน 8 พื้นที่  ที่ดิน614 แปลง ซึ่งพร้อมที่จะพัฒนาภายในปี 2570-2571 โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มพื้นที่ศักยภาพในเมือง จำนวน 7 พื้นที่ ขนาดพื้นที่ 3-10 ไร่ รวมที่ดิน 385 แปลง ประกอบด้วย 1.พื้นที่ในเขตทางพิเศษถนนสีลมศักยภาพชานเมือง, 2.สำนักงานอโศก, 3.สุขาภิบาล 5, 4.หัวถนนรามอินทรา, 5.บริเวณถนนสุขุมวิท (เพลินจิต), 6.อนุสาวรีย์ชัยฯ, 7.ปากซอยวัชรพล

ส่วนกลุ่มพื้นที่ชานเมือง จำนวน 8 พื้นที่ ขนาดพื้นที่ 3-200ไร่ รวมที่ดิน 547 แปลง ประกอบด้วย 1.พื้นที่ในเขตทางพิเศษบริเวณศรีสมาน 2.จุดตัดถนนเทพรักษ์ด้านทิศใต้ 3.จุดตัดถนนเทพารักษ์ด้านทิศใต้ 4.จุดตัดถนนศรีนครินทร์ด้านทิศใต้ 5.บริเวณกม.16 6.พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ 7.จตุโชติวงแหวนรอบนอกฯ 8.ต่างระดับบางปะอิน

นอกจากนี้ กลุ่มพื้นที่เตรียมพร้อมรองรับสู่การติดตั้ง EV Station จำนวน 10 พื้นที่ ขนาดที่ 60-2,200 ตร.. ที่ดิน 212 แปลง ประกอบด้วย 1.พระราม 6 ซอย 20 2.หน้าด่านเก็บค่าผ่านทางรามคำแหง 3.งามวงศ์วาน 21 4.พระราม9-อโศก 5.หน้าด่านเก็บค่าผ่านทางสุรวงศ์ 6.จุดกลับรถเซ็นทรัลพระราม 3 7.งามวงศ์วาน 23 8.บริเวณหลังด้านคลองประปา 9.จุดกลับรถลาดพร้าวทาวน์อินทาวน์ 10.บริเวณถนนวัชรพลใต้ทางพิเศษฉลองรัฐ