เปิดฉาก! อัพเกรด ‘ดอนเมือง’ เฟส 3 รับผู้โดยสาร 50 ล้านคน คาดเสร็จสมบูรณ์ในปี 72 จ่อเปิด SAT-1 ดีเดย์ 28 ก.ย.นี้

ทอท.จัดหยั่งเสียงพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 มูลค่า 3.68 หมื่นล้าน เร่งออกแบบ จ่อชง ครม.ไฟเขียวปลายปี 67 ก่อนลุยตอกเสาเข็มเสร็จครบในปี 72 รับผู้โดยสารสูงสุด 50 ล้านคน/ปี ส่วนปริมาณผู้ใช้บริการ 6 สนามบินดีเกินคาด 25% พร้อมเตรียมเปิด SAT-1 @สุวรรณภูมิ ดีเดย์ 28 ก.ย.นี้ ประเดิม 3 แอร์ไลน์ รวม 12 ไฟลท์บิน บอกลานั่งรถบัสไปขึ้นเครื่อง

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า วันนี้ (29 ส.ค. 2566) ทอท.ได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 งานจ้างสำรวจและออกแบบโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 เพื่อระดมความเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้เสียและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่โครงการฯ สำหรับนำความเห็นไปประกอบในการออกแบบโครงการฯให้มีความเหมาะสม

ทั้งนี้ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ระยะที่ 3 วงเงิน 36,829 ล้านบาท เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่ ทอท. เร่งผลักดันให้สำเร็จเป็นรูปธรรมตามแผนแม่บท ทดม. ซึ่งจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 2.4 แสนล้านบาทและช่วยเพิ่มขีดความสามารถของ ทดม.ให้มีศักยภาพรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดประมาณ 50 ล้านคนต่อปี เนื่องจากปัจจุบัน ท่าอากาศยานดอนเมือง มีปัญหาความแออัดของผู้โดยสาร จะเห็นได้ว่าในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อปี 2562  มีผู้โดยสารใช้บริการ 41 ล้านคนต่อปี แต่ขีดความสามารถรองรับได้อยู่ที่ 30 ล้านคนต่อปีเท่านั้น

นายกีรติ กล่าวต่อว่า ทอท.จะมีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 บริเวณด้านทิศใต้ของ ทดม. ซึ่งจะเป็นอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ จะสามารถรองรับผู้โดยสาร 18 ล้านคนต่อปี และดำเนินการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 เพื่อให้บริการรองรับผู้โดยสารภายในประเทศร่วมกับอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 จะทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารภายในประเทศได้ประมาณ 22 ล้านคนต่อปี นอกจากนี้ จะดำเนินการปรับปรุงระบบการจราจรบริเวณชานชาลาผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวกในการเข้า–ออกท่าอากาศยาน รวมไปถึงก่อสร้างทางเชื่อมจากทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์เข้าสู่ชานชาลาหน้าอาคารผู้โดยสารโดยตรง

สำหรับความคืบหน้าของโครงการฯ นั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจและออกแบบรายละเอียดโครงการฯ โดยบริษัทที่ปรึกษาจะใช้เวลาออกแบบ 10 เดือน คู่ขนานกับการขออนุมัติแบบและนำเสนอแบบ รวมถึงมูลค่าโครงการฯต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณา คาดว่า จะสามารถเสนอไปยัง ครม. ได้ในช่วงปลายปี 2567 เพื่อให้สามารถเดินหน้าสู่กระบวนการดำเนินการก่อสร้างในปลายปี 2567 หรือต้นปี 2568 ซึ่งจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 3 ประมาณ 3 ปี หรือแล้วเสร็จภายในปี 2570 จากนั้น ทอท.จะเดินหน้าปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังที่1 และหลังที่ 2 เดิม เพื่อให้เป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศแห่งใหม่ คาดว่า จะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี2572

สำหรับโครงการพัฒนา ทดม. ระยะที่ 3 มีรายละเอียดของงาน 5 กลุ่มงาน ประกอบด้วย กลุ่มงานที่ 1 งานพัฒนาด้านทิศใต้ เช่น งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารอาคาร 3 พร้อมอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 6 และงานปรับปรุงอาคารจอดรถยนต์ 7 ชั้น เป็นชานชาลาจอดรับ–ส่งผู้โดยสาร, กลุ่มงานที่ 2 งานพัฒนาพื้นที่ด้านทิศเหนือ เช่น งานปรับปรุงหลุมจอดอากาศยานด้านทิศเหนือ และงานก่อสร้างขยายอาคารเทียบเครื่องบินด้านทิศเหนือ รวมไปถึงอาคารสำนักงานสายการบิน และอาคารรับรองพิเศษ VVIP

กลุ่มงานที่ 3 งานก่อสร้างในพื้นที่เขตปฏิบัติการการบิน เช่น งานก่อสร้างลานจอดอากาศยานด้านทิศเหนือพร้อมทางขับเชื่อม ปรับปรุงลานจอดภายใน ทดม. และปรับปรุงพื้นที่ทิศเหนือเป็นเขตการบิน, กลุ่มงานที่ 4 งานปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคาร 1 อาคารเทียบเครื่องบินด้านทิศเหนือ และอาคารเทียบเครื่องบิน หมายเลข 2-4 และกลุ่มงานที่ 5 งานสนับสนุนโครงการพัฒนา ได้แก่ งานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค

โครงการพัฒนา ทดม. ระยะที่ 3 มีเป้าหมายเพื่อขยายขีดความสามารถในการรองรับปริมาณผู้โดยสาร พัฒนาคุณภาพการให้บริการ ทั้งระบบขนถ่ายผู้โดยสารทางอากาศและทางภาคพื้นให้มีประสิทธิภาพ และลดความแออัดของระบบการจราจรภายในท่าอากาศยาน รวมทั้งกิจกรรมทางด้านการบินที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”

นายกีรติ กล่าว

ปี 66 ผู้โดยสารดีเกินคาดการณ์ เตรียมเปิด SAT-1 วันที่ 28 ก.ย.นี้

นายกีรติ กล่าวต่อว่า สำหรับในช่วงไตรมาส 4 ของปีงบประมาณ 2566 (ก.ย. 2565-ก.ย. 2566) เชื่อว่า ปริมาณผู้โดยสารทั้ง 6 แห่ง ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอาอาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานหาดใหญ่, ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จะฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ 25% เช่นเดียวกับรายได้ และกำไรที่จะเติบโตขึ้นตามไปด้วย โดยในเบื้องต้น 3 ไตรมาสของปี 2566 ทอท.มีกำไรแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ในวันที่ 28 ก.ย. 2566 ทอท. เตรียมจะเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) โดยในช่วงทดลองประมาณ 2 เดือน จะมีสายการบินให้บริการ 3 สายการบิน ได้แก่ สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์, สายการบินไทยเวียตเจ็ท และสายการบินเอมิเรตส์ โดยจะให้บริการวันละประมาณ 12 เที่ยวบิน จากนั้นคาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ประมาณ ธ.ค. 2566 ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณถูมิจาก 45 ล้านคนต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 60 ล้านคนต่อปี อีกทั้งช่วยลดความแออัดภายในอาคารผู้โดยสารหลักและจะช่วยอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร โดยไม่ต้องนั่งรถบัสไปยังเครื่องบิน (Bus Gate) ด้วย