‘คมนาคม’ สั่งสอบปม ‘ส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุก’ เตรียมแจงรายละเอียดพรุ่งนี้ ส่วน ทล. เผยพบรถบรรทุกติดสติ๊กเกอร์ 3 คัน ยันที่ผ่านมาตรวจเข้มทุกคัน

“อธิรัฐ” รักษาการ รมว.คมนาคม สั่งตรวจสอบปม “ส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุก” เตรียมแจงรายละเอียดวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค. 66) ด้าน “ทางหลวง” เผย พ.ค. 66 พบรถบรรทุกติดสติ๊กเกอร์สีฟ้า 3 คัน ระบุตรวจสอบเข้มรถทุกคันมาโดยตลอด ยันจับกุมผู้กระทำผิดเพิ่มขึ้นทุกปี ลั่นกำชับ 97 ด่านตรวจทั่วไทยเข้มงวดมากขึ้น ส่วน “โฆษก สตช.” เร่งบก.ทล.สอบด่วน หากพบ ขรก.-บุคคลทำผิด ฟันอาญา–วินัย แจ้งหน่วยงาน–ปชช. ส่งหลักฐานได้ทุกกรณี

จากกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์ข้อมูลสติกเกอร์ติดบนรถบรรทุก หรือส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุก ที่นายวิโรจน์ใช้คำว่า Easy Pass เพื่อให้รถบรรทุกสามารถวิ่งได้บนโครงข่ายถนนทั่วประเทศนั้น

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะชี้แจงรายละเอียดการตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค. 2566) ต่อไป

ด้านนายจิระพงศ์ เทพพิทักษ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ฝ่ายบำรุงทาง กล่าวว่า สำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ มีด่านตรวจถาวร (ด่านช่างน้ำหนัก) ทั่วประเทศรวม 97 แห่ง, หน่วยตรวจสอบเคลื่อนที่ (Spot Check) และด่านตรวจสอบส่วนกลางอีก 12 แห่ง ได้ดำเนินการตรวจสอบรถบรรทุกน้ำหนักเกินทุกคันอย่างเข้มงวดมาโดยตลอดโดยไม่ได้ตรวจสอบเฉพาะเจาะจงรถบรรทุกที่ติดสติ๊กเกอร์เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ ยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ภายหลังมีกระแสข่าวดังกล่าว สำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ ได้รายงานผลการตรวจสอบเบื้องต้น (ข้อมูลพ.ค. 2566) พบว่า มีรถบรรทุกติดสติ๊กเกอร์พระอาทิตย์สีฟ้า จำนวน 3 คัน อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (29 พ.ค. 2566) ได้เรียกประชุมและสั่งการให้ด่านช่างน้ำหนักทุกแห่งของ ทล. เข้มงวดตรวจสอบรถบรรทุกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และตรวจรถบรรทุกทุกคัน ทั้งที่มีสติ๊กเกอร์ หรือไม่มีสติ๊กเกอร์ และดำเนินการตามระเบียบ กฎหมายอย่างเคร่งครัด

“จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมาเราตรวจสอบรถบรรทุกทุกคัน เราจับกุมเพราะเป็นรถบรรทุก ไม่ได้เจาะจงรถบรรทุกที่ติดหรือไม่ติดสติ๊กเกอร์ ดูได้จากสถิติการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินตั้งแต่ปี 2563-2565 มีการจับกุมเพิ่มขึ้นทุกปี” นายจิระพงศ์ กล่าว

ขณะที่ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้รับทราบแล้ว และไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยสั่งการให้กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ดำเนินการตรวจสอบโดยด่วนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร มีการกระทำผิดในรูปแบบส่วยทางหลวงตามที่ปรากฎตามข่าวหรือไม่ หากพบข้าราชการตำรวจหรือบุคคลใดเข้าไปเกี่ยวข้องให้ดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายอย่างเด็ดขาด ทั้งอาญา วินัย และปกครอง

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตำรวจทางหลวงได้รายงานให้ทราบว่า ได้มีการประสานข้อมูลกับสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยจนนำไปสู่การจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือความผิดอื่นๆ มาตลอด แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การตรวจสอบ ดำเนินการเป็นไปด้วยความเข้มข้น ตอบคำถามสังคมได้ และแก้ปัญหาส่วยรถบรรทุกอย่างจริงจัง

ขณะเดียวกัน ผบ.ตร.ได้สั่งการเพิ่มเติมว่า พร้อมที่จะรับฟังข้อมูล พยานหลักฐาน เอกสารการร้องเรียนจากทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการจัดการกับขบวนการส่วยรถบรรทุกอย่างเด็ดขาด โดยสามารถแจ้งข้อมูลมาที่ ตร.โดยตรง หมายเลข1599 หรือ จเรตำรวจ ผ่านระบบ JCoMS รับร้องเรียนจเรตำรวจทางออนไลน์  http://www.jcoms.police.go.th  หรือกองบังคับการตำรวจทางหลวง ที่หมายเลข 1193 ทุกข้อมูลทุกหลักฐานยืนยันจะดำเนินการเต็มที่ 

“ขอให้สมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย หรือพี่น้องประชาชน หากมีข้อมูล พยานหลักฐาน เกี่ยวกับส่วยตำรวจทางหลวง สามารถนำมายื่นโดยตรง หรือจะแจ้งตามช่องทางการร้องเรียนต่างๆ ก็ได้ ซึ่งไม่เพียงแค่เรื่องส่วยตำรวจทางหลวง หากพบการทุจริตของตำรวจ สามารถแจ้งมาได้ทุกเรื่อง เป็นนโยบายโดยตรงของ ท่าน ผบ.ตร.ที่สั่งดำเนินการเด็ดขาดกับตำรวจที่กระทำผิดอยู่แล้ว” พล.ต.ท.อาชยน กล่าว