ลุยต่อ! เปิดให้บริการรถเมล์ไฟฟ้าเพิ่ม 3 สาย เชื่อมการเดินทางล้อ-ราง-เรือ ‘ย่านคลองเตย’

ศักดิ์สยามลุยต่อ เปิดให้บริการรถเมล์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 เส้นทาง เชื่อมโยงย่านคลองเตยจ่อเปิดครบ3,100 คันภายในปีนี้ คาดช่วยลดก๊าซเรือนกระจกภาคขนส่ง 5 แสนตันคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิต & เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ (23 .. 2566) ตนได้เป็นประธานพิธีเปิดให้บริการเดินรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (รถเมล์ EV) สาย 3-36 ท่าเรือคลองเตยท่าเรือภาษีเจริญ, สาย 3-44 ท่าเรือคลองเตยอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสาย 3-55 ท่าเรือคลองเตยพระราม 7 ภายใต้แนวคิด “Thai Smile Bus Our Love Will Change The World : รักเรารักษ์โลก

ทั้งนี้ จากนโยบายของรัฐบาลภายใต้การบริหารงานของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญการเพิ่มประสิทธิภาพรถโดยสารสาธารณะในการให้บริการประชาชน ส่งเสริมการใช้รถเมล์ไฟฟ้า EV มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้สามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยกระทรวงคมนาคมคมได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการจัดหารถโดยสารพลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อนำมาบริการประชาชนให้ได้รับความสะดวก สะอาด ประหยัด ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถเดินทางได้อย่างไร้รอยต่อ

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า สำหรับพิธีเปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ของปี 2566 ในการสานต่อความสำเร็จในการผลักดันให้เกิดบริการรถโดยสารพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ประชาชนด้วยความร่วมมือของกระทรวงคมนาคมและภาคเอกชน โดยตั้งแต่กลางปี 2565 มาจนถึงปัจจุบันได้นำรถโดยสารพลังงานไฟฟ้ามาให้บริการกับพี่น้องประชาชนกว่า 1,250 คัน ใน 77 เส้นทาง ถือเป็นการพลิกโฉมภาพลักษณ์ของระบบ     การขนส่งมวลชนทางถนนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ขณะเดียวกัน ในปี 2566 กระทรวงคมนาคมตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถผลักดันให้มีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้บริการประชาชนเพิ่มขึ้นอีก 1,850 คัน เพื่อขยายผลการบริการรถโดยสารสาธารณะที่มีคุณภาพ โดยภาคเอกชนจะมีการพัฒนาคุณภาพบริการเดินหน้าปรับเปลี่ยนรถโดยสารเอกชนจากรถที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลไปเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ใน 45 เส้นทาง และเส้นทางที่มีความต้องการใช้บริการสูง ทำให้ภาพรวมภายในปี 2566 จะมีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้บริการถึง 3,100 คัน คาดว่าจะส่งผลให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจก 500,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคการขนส่ง

สำหรับการเปิดเส้นทางรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 เส้นทาง ในย่านคลองเตยซึ่งเป็นหนึ่งในย่านใจกลางเมืองที่มีเรื่องราวการตั้งรกรากที่อยู่อาศัยและการค้าขายมาอย่างยาวนาน มีตลาดคลองเตย ร้านอาหารเก่าแก่ที่เปิดมาหลายสิบปี ผ่านการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น รวมไปถึงสตรีทฟู้ดที่มีให้เลือกสรรมากมาย ไม่มีใครในกรุงเทพมหานครที่ไม่รู้จักคลองเตย นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่กระทรวงคมนาคมได้ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนรถเมล์ที่ให้บริการในย่านนี้มาเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษฝุ่น PM 2.5

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ยังเป็นการเชื่อมโยงการเดินทางแบบไร้รอยต่อล้อรางเรือให้ประชาชนได้เดินทางไปสู่สถานที่สำคัญ อาทิ สวนลุมพินี สถานีรถไฟหัวลำโพง สำเพ็ง วงเวียนใหญ่ ตลาดพลู ท่าเรือภาษีเจริญ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนพระราม 7 และตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมได้ผลักดันนโยบายเพื่อพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ราคาเป็นธรรม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการปฏิรูปเส้นทางเดินรถให้ประชาชนเดินทางได้สะดวก

นอกจากนี้ ยังเป็นการปรับปรุง แก้ไข กฎระเบียบ เพื่อสนับสนุนให้เอกชนริเริ่มที่จะนำ รถโดยสารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาให้บริการพี่น้องประชาชน และขอความร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อให้ ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการขนส่งสาธารณะที่ราคาประหยัด เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพ

สำหรับการเดินทางรูปแบบใหม่นั้น ทางบริษัทได้จัดทำรูปแบบการชำระค่าโดยสารราคาพิเศษผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (บัตร HOP CARD) เพื่อช่วยลดรายจ่ายในการเดินทาง ซึ่งผู้โดยสารที่เดินทางเฉพาะรถโดยสารจะคิดค่าโดยสารตามจริงแต่ไม่เกินวันละ 40 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว และสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางในรูปแบบรถต่อเรือจะคิดค่าโดยสารตามจริงแต่ไม่เกินวันละ 50 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวอีกด้วย