‘คมนาคม’ รับการตรวจประเมิน IMO มาตรฐานขนส่งทางทะเลไทยในรอบ 15 ปี ลุ้นผลภายใน 1 เดือน วางเป้าผลตรวจระดับ ‘ดีเยี่ยม’

คมนาคมเปิดฉาก IMO ตรวจประเมินจท.-กทท.” ในรอบ 15 ปี ดีเดย์! 20-27 ..นี้ สร้างมาตรฐานความปลอดภัย & สิ่งแวดล้อมทางทะเลของประเทศ ลุ้นผลภายใน 1 เดือน วางเป้าผลการตรวจระดับดีเยี่ยม

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดพิธีการตรวจประเมินประเทศสมาชิกองค์การทางทะเลระหว่างประเทศภาคบังคับ (IMO Member State Audit Scheme : IMSAS) ร่วมสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางทะเลของประเทศ วันนี้ (20 .. 2566) ว่า การตรวจประเมิน IMO ทั้งกรมเจ้าท่า (จท.) และการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) โดยเฉพาะคณะผู้ตรวจประเมินฯ ที่เข้าร่วมโครงการMember State Audit Scheme (IMSAS) ในประเทศไทย จะดำเนินการในระหว่างวันที่ 20–27 .. 2566

สำหรับกระบวนการตรวจประเมิน IMSAS เป็นมาตรการเชิงสร้างสรรค์ของ IMO ในการยกระดับการดำเนินการตามพันธกรณีของอนุสัญญาระหว่างประเทศด้านความปลอดภัยและการปกป้องคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล รวมทั้งเป็นการรวบรวมผลการปฏิบัติจากประเทศสมาชิกต่างๆ เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำโครงการช่วยเหลือทางวิชาการ ให้ประเทศสมาชิกได้ยกระดับความสามารถในการปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญาได้โดยไม่ทิ้งประเทศใดไว้ข้างหลัง

ทั้งนี้ เป็นไปตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติจากการประชุมคณะมนตรีสมัยวิสามัญ ครั้งที่ 32 (COUNCIL 32nd extraordinary session) ที่มีมติรับรองแผนการปรับปรุงกำหนดการตรวจประเมินประเทศสมาชิกภาคบังคับ (IMSAS) เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้เลื่อนการตรวจประเมินในปี 2564 ออกไปเป็นปี 2565 และผลการประชุมคณะมนตรี ครั้งที่ 125 (125th Council : C125) ที่มีมติรับรองให้ใช้การตรวจประเมินทางไกล (Remote Audit) เป็นมาตรการชั่วคราวในช่วงสถานการณ์โควิด-19

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า IMO ได้มีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เมื่อวันที่ 8 .. 2564 แจ้งประเทศสมาชิกถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ไม่สามารถตรวจประเมินประเทศต่างๆ ได้ตามแผนที่วางไว้ และปรับวิธีการตรวจประเมินทางไกล (Remote audit) แทนการตรวจประเมินแบบปกติ จึงจำเป็นต้องเลื่อนกำหนดการตรวจประเมินในปี 2565 ออกไปเป็นปี 2566 รวมถึงกำหนดการตรวจประเมินของประเทศไทยที่ถูกเลื่อนจาก .. 2565 เป็น .. 2566 ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ IMO เคยตรวจประเมินครั้งล่าสุดโดยภาคสมัครใจเมื่อปี 2550 ซึ่งไทยผ่านเกณฑ์ แต่ต้องปรับปรุง 14 ข้อ จากทั้งหมด 29 ข้อ โดยการตรวจประเมินในครั้งนี้นั้น จะมีการตรวจประเมิน 29 ข้อ ในเรื่องความปลอดภัย และการปกป้องคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล ซึ่งจะมีการให้คะแนน พร้อมกับให้คำแนะนำกรณีที่ต้องปรับปรุงแก้ไข ที่ผ่านมากรมเจ้าท่าได้ปรับปรุงระเบียบ กฎหมาย และการดำเนินการ ติดตั้ง ระบบควบคุมการจราจรทางน้ำ VTS (Vessel Traffic System) ถือเป็นยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยขึ้นการขนส่งทางน้ำ โดยการตรวจประเมินในครั้งนี้ คาดว่า ประมาณ 1 เดือนจะได้รับทราบผลการตรวจฯ และเชื่อว่า จะผ่านการประเมิน

สำหรับประเด็นการตรวจประเมินฯ ในครั้งนี้ ประกอบด้วย การจัดทำกลยุทธ์ระดับประเทศในการขับเคลื่อนการดำเนินการให้เป็นไปตามแผนและเป้าหมายที่กำหนด การกำกับดูแลการดำเนินการโดยคณะกรรมการแห่งชาติ เพื่อประสานงานกับ IMO การลงนามบันทึกความร่วมมือแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยา การฝึกอบรมให้กับเรือไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเก็บข้อมูลตรวจอากาศทางทะเล

อีกทั้งการขยายสถานี Navtex เพื่อให้บริการข่าวสารด้านการเดินเรือ .สุราษฎร์ธานี ครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งทะเลอั่วไทยและอันดามัน  การฝึกซ้อมการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานประสบภัย การตั้งสำนักงานสืบสวนอุบัติเหตุทางน้ำเพื่อให้การสอบสวนอุบัติเหตุทางน้ำเป็นอิสระ และการตั้งกลุ่มมาตรฐานความปลอดภัยสินค้าและสินค้าอันตราย เพื่อกำหนดการกำกับ ดูแลความปลอดภัยระหว่างการขนส่งสินค้าทางเรือ

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า IMO เป็นทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ จัดตั้งขึ้นเพื่อกำหนดกรอบมาตรฐานด้านความปลอดภัยและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในการขนส่งทางทะเลระหว่างประเทศ สำหรับให้ประเทศสมาชิกยอมรับและนำไปปฏิบัติในรูปของตราสารต่างๆ ได้แก่ อนุสัญญา พิธีสาร กฎ และข้อบังคับ ปัจจุบันมีสมาชิก 174 ประเทศ และสมาชิกสมทบ (เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และหมู่เกาะแฟโร) ซึ่งประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาและพิธีสารของ IMO 14 ฉบับจากอนุสัญญาและพิธีสารทั้งหมด 59 ฉบับ

สำหรับการขนส่งทางทะเลเป็นเส้นทางอำนวยความสะดวกที่สำคัญของการค้าในยุคโลกาภิวัฒน์และระบบห่วงโซ่อุปทาน เนื่องจากเป็นเส้นทางที่สามารถรับประกันการขนส่งระหว่างประเทศที่เชื่อถือได้และประหยัดต้นทุน สำหรับIMO เป็นหน่วยงานพิเศษของสหประชาชาติที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและประสานมาตรฐานสำหรับความปลอดภัยและความมั่นคงของการขนส่งทางทะเลระหว่างประเทศ รวมทั้งการป้องกันมลพิษทางทะเลโดยเรือประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นประเทศสมาชิก IMO ตั้งแต่ปี 2516

ทั้งนี้ ได้ปรับปรุงมาตรฐานการเดินเรือ เพื่อความปลอดภัยและการป้องกันสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพัฒนากระบวนการเชิงบูรณาการระหว่างหน่วยงานทางทะเลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจถึงการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ตราสาร IMO การปรับปรุงขีดความสามารถของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนระดับชาติ และความปลอดภัยในชีวิตทางทะเลในระดับภูมิภาค เพื่อป้องกันมลพิษทางเรือผ่านยุทธศาสตร์การเดินเรือโดยรวมของประเทศไทย

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า เนื่องจากในปีนี้เป็นปีครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับ IMO จึงเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยที่มีต่ออาณัติของ IMO ในการพัฒนาการขนส่งทางทะเลอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนเครื่องมือและประสบการณ์ระหว่างประเทศ พร้อมร่วมแผนการปฏิบัติระหว่างรัฐสมาชิกในการบรรลุเป้าหมายร่วมกัน เพื่อการขนส่งระหว่างประเทศที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 16 มิ.. 2563 เห็นชอบอนุมัติการลงนามในร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างราชอาณาจักรไทยและ IMO เกี่ยวกับการเข้าร่วมโครงการ IMSAS โดยมอบให้อธิบดีกรมเจ้าท่าหรือรองอธิบดีกรมเจ้าท่าที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้แทนฝ่ายไทยสำหรับการลงนามดังกล่าว และอนุมัติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 16 หน่วยงานเข้าร่วมโครงการฯ ได้แก่

กระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ศร.ชล. กองทัพเรือ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย กรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุตุนิยมวิทยา กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ

โดยมีพันธกรณีที่ต้องรับการตรวจประเมินจาก IMO ในอนุสัญญาที่ประเทศไทยเข้าเป็นภาคี 6 ฉบับ ประกอบด้วยอนุสัญญา SOLAS อนุสัญญา MARPOL (เฉพาะภาคผนวกที่ 1 และ 2) อนุสัญญา LOADLINE อนุสัญญา TONNAGE อนุสัญญา CORLEG และอนุสัญญา STCW ให้เป็นไปตามประมวลข้อบังคับว่าด้วยการอนุวัติการตรวจตราสารขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO Instruments Implementation Code : III Code) ประกอบด้วย ประเด็นโดยรวม (Common Area) รัฐเจ้าของธง (Flag State Implementation) รัฐชายฝั่ง (Coastal State Implementation) และรัฐเจ้าของท่าเรือ (Port State Implementation

ด้านนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตนในฐานะที่กำกับดูแลกรมเจ้าท่า ได้มีการติดตามความก้าวหน้าและขับเคลื่อนการดำเนินการเตรียมความพร้อมรับการตรวจอย่างต่อเนื่อง โดยกรมเจ้าท่าได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปรับปรุงการปฏิบัติ และแก้ไขข้อบกพร่องและข้อสังเกตุที่พบจากการจำลองการตรวจสอบแบบเสมือนจริง เพื่อให้เป็นไปตามแผนและเป้าหมายที่กำหนด สอดคล้องกับพันธกรณีของอนุสัญญาระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า ประเทศไทยมีความพร้อมในรับการตรวจประเมินจาก IMO โดยมีเป้าหมายผลการตรวจในระดับดีเยี่ยม (Perfect) ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีมาตรฐานทางทะเลที่เป็นสากล สร้างความเชื่อมั่นเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ส่งเสริมและพัฒนาให้กิจการพาณิชยนาวีของไทยมีความเข้มแข็ง ขับเคลื่อนสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของไทยอย่างมั่นคงต่อไป