‘ศักดิ์สยาม’ ลงพื้นที่ ‘สุวรรณภูมิ’ ตรวจงานรับ ‘จีน’ เปิดประเทศ & กระเป๋าล่าช้า เผยภาพรวม ผดส. 8-31 ม.ค. 66 กว่า 6.89 ล้านคน
“ศักดิ์สยาม” ลงพื้นที่ “สุวรรณภูมิ” ลุยอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร หลังจีนเปิดประเทศ พร้อมติดตามความคืบหน้าแก้ไขปัญหากระเป๋าล่าช้า เผยภาพรวมผู้โดยสาร 8-31 ม.ค. 66 กว่า 6.89 ล้านคน จ่อเปิดใช้บริการ SAT-1 ก.ย.นี้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและติดตามข้อสั่งการการอำนวยความสะดวกผู้โดยสารภายหลังสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศ และติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันนี้ (9 ก.พ. 2566) ว่า จากนโยบายรัฐบาลโดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศพร้อมทั้งสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและประเมินสถานการณ์ให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมมาตรการรองรับนักท่องเที่ยว และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ
ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานมีความพร้อมทั้งมาตรการให้บริการจราจรทางอากาศและการให้บริการภาคพื้น เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โดยภายหลังจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีปริมาณเที่ยวบินและนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มจะมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจากข้อมูลปริมาณเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารของ ทอท. ตั้งแต่วันที่ 8-31 ม.ค. 2566 ทอท. มีเที่ยวบินในภาพรวม จำนวน 43,300 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 1,800 เที่ยวบิน/วัน
ขณะเดียวกัน ผู้โดยสารในภาพรวม 6.89 ล้านคน หรือเฉลี่ย 287,000 คน/วัน โดยเป็นเที่ยวบิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 25,690 เที่ยวบิน และผู้โดยสารจำนวน 4.3 ล้านคน ซึ่ง ทอท. มีเป็นเที่ยวบินเส้นทางจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 2,000 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 80 เที่ยวบิน/วัน โดยมีผู้โดยสาร จำนวน 255,000 คนหรือเฉลี่ย 11,000 คน/วัน ซึ่งเป็นเที่ยวบิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 1,126 เที่ยวบิน และผู้โดยสารขาเข้า – ขาออก จำนวน 238,374 คน
ทั้งนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิซึ่งเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ พบว่าในเดือนมกราคม 2566 มีปริมาณเที่ยวบิน เฉลี่ย 829 เที่ยวบิน/วัน ฟื้นตัว 84% แบ่งเป็น เที่ยวบินระหว่างประเทศ 561 เที่ยวบิน/วัน ฟื้นตัว 139% และเที่ยวบินภายในประเทศ 268 เที่ยวบิน/วัน ฟื้นตัว 24% และมีผู้โดยสารเดินทางเข้า–ออก เฉลี่ย 138,287 คน/วัน ฟื้นตัว317% แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 101,551 คน/วัน ฟื้นตัว 981% และผู้โดยสารภายในประเทศ 36,736 คน/วัน ฟื้นตัว 55% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า จากการประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้า ณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของผู้ประกอบการภาคพื้นทั้ง 2 ราย (TG และ BFS) ที่ใช้เวลามากกว่า 30 นาที เมื่อ ธ.ค. 2565 ซึ่งมีประมาณ 50 เที่ยวบินต่อวัน ปัจจุบัน (ก.พ. 2566) ลดลงเหลือประมาณ 15 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งจะเห็นว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยขณะนี้ ทอท. อยู่ระหว่างการสรรหาผู้ให้บริการภาคพื้นรายที่ 3 เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณเที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้สร้างความรับรู้ในการปรับปรุงบริการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนรับทราบ จัดทำวีดีโอคลิปประชาสัมพันธ์บนเครื่องบินเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสาร รวมทั้งมีการพัฒนา service mind ของเจ้าหน้าที่เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการของท่าอากาศยานและมีจัดเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน ผู้โดยสารเมื่อเวลาเกิดปัญหา เพื่อช่วยลดความกังวลให้แก่ผู้โดยสารที่ประสบปัญหา พิจารณาเร่งรัดการดำเนินการโครงการต่างๆของ AOT เพื่อให้สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
อีกทั้ง ปรับลดขั้นตอนการทำงานในองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และมอบให้ ทอท. สนับสนุนข้อมูลสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในการขยายอัตรากำลังเพื่อรองรับการตรวจคนเข้าเมืองให้สอดคล้องกับการเพิ่มจำนวนของนักท่องเที่ยว มอบให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) บริหารจัดการ จัดสรรตารางการบินให้แก่สายการบินต่างๆ
นอกจากนี้ ปรับเส้นทางบินตรงไปยังท่าอากาศยานในภูมิภาคและปรับช่วงเวลาการเดินทาง เพื่อลดความแออัดของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการกระจายการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และใช้ระบบ IT และ automation มาช่วยปรับปรุงขั้นตอนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า สำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินกระทรวงคมนาคมมีกำหนดการเปิดให้บริการ SAT-1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก.ย. 2566 โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเตรียมทดสอบความพร้อมการเปิดให้บริการ (Operational Readiness and Airport Transfer: ORAT) ในช่วง มี.ค. 2566 เป็นเวลา 6 เดือน โดยปัจจุบันอยู่ในระหว่างผู้ประกอบการภายในอาคาร SAT-1 ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อเข้าปรับปรุงพื้นที่
ทั้งนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อน ก.ย. 2566 ในส่วนของรถไฟฟ้า APM ดำเนินงานแล้วเสร็จ 100% ตั้งแต่ ก.ย. 2565 มีความพร้อมในการให้บริการในช่วง ORAT และเปิดใช้ SAT-1 สำหรับงานที่อยู่ในระหว่างการทดสอบร่วมกับระบบเดิมที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คือระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และระบบตรวจอาวุธและวัตถุระเบิด (EDS) ขาออก ปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 96%
นอกจากนี้ ยังกำชับให้ ทอท. ประสานอำนวยความสะดวกจุดรับ–ส่งผู้โดยสาร และบริหารจัดการรถโดยสารสาธารณะและ Taxi ให้เพียงพอ รวมถึงมอบนโยบายให้ ทอท.จัดทำศุนย์บริการข้อมูลระบบขนส่งมวลชน ล้อ–ราง–เรือของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้บริการข้อมูลการเดินทางและบัตรโดยสารพร้อมทั้งส่วนลดพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบการขนส่งมวลชนสำหรับประชาชนและผู้ใช้บริการท่าอากาศยานของ ทอท. สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT เพื่อดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับท่าอากาศยานและจองการใช้บริการรถ TAXI