“ทางหลวง” อัปเดตสถานการณ์น้ำท่วมบนทางหลวง วันนี้ (13 ต.ค. 65) เผยกระทบ 19 จังหวัด สัญจรไม่ได้ 30 แห่งพร้อมเร่งช่วยเหลือประชาชน บน ทล.338 ระดับน้ำสูล 10-30 ซม. ลุยเสริมคันกระสอบทราย เร่งคืนผิวจราจร
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ทล.ได้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน จากสถานการณ์น้ำท่วมบนทางหลวงหมายเลข 338 ช่วง กม. 24+800-25+300 ระดับน้ำสูงประมาณ 10-30 ซม. เนื่องจากน้ำในแม่น้ำนครชัยศรี (แม่น้ำท่าจีน) เอ่อล้นเข้าท่วมแนวกระสอบทรายเดิมที่กั้นไว้ โดยดำเนินการเสริมคันกระสอบทรายและเร่งระบายน้ำโดยเร็วที่สุด เพื่อคืนผิวจราจร พร้อมร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการลงพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทาง
ในขณะที่บางพื้นที่ก็มีการล้างทำความสะอาดถนน ทางลอดใต้สะพานหลังจากน้ำลดลงบ้างแล้ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรโดยเร็วที่สุดอย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ตามข้อสั่งการของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีความห่วงใย จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยประชาชนอย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ ทล. ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง โดย สถานการณ์ประจำวันที่ 13 ต.ค. 2565 เวลา 12.30 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ ในพื้นที่ 19 จังหวัด ได้แก่ จ.ขอนแก่น, จ.ศรีสะเกษ, จ.สุรินทร์, จ.บุรีรัมย์, จ.นครราชสีมา ,จ.หนองบัวลำภู , จ.อุบลราชธานี, จ.ร้อยเอ็ด, จ.มหาสารคาม, จ.ยโสธร, จ.สระบุรี, จ.ลพบุรี, จ.สุพรรณบุรี, จ.อ่างทอง, จ.พระนครศรีอยุธยา, จ.สิงห์บุรี, จ.นครสวรรค์, จ.อุทัยธานี, และ จ.ปราจีนบุรี, จำนวน 45 สายทาง 65 แห่ง การจราจรผ่านไม่ได้ 30 แห่ง ดังนี้
1.จังหวัดขอนแก่น จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 2065 ตอน พล–ลำชี ในพื้นที่ อ.พล ช่วง กม.ที่ 33+150-34+000 ทางขาด การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน, ทางหลวงหมายเลข 2131 ตอน บ้านสะอาด–เหล่านางาม ในพื้นที่อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 6+700-8+200 ระดับน้ำ 80 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ และทางหลวงหมายเลข 2183 ตอน น้ำพอง–โคกท่า ในพื้นที่ อ.น้ำพอง ช่วง กม.ที่ 14+500-15+100 ระดับน้ำ 40-45 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงแยกโคกท่า กม.25+600
2.จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ศรีสะเกษ–ห้วยขะยุง ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ช่วง กม.ที่ 311+000-313+384 ระดับน้ำ 60-80 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2178, ทางหลวงหมายเลข 2083 ตอน หัวช้าง–สะเดา ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 16+000-19+500 ระดับน้ำ 45-90 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน, ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน–เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 27+500-29+000 ระดับน้ำ 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
อีกทั้ง ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน–เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 30+000-31+500 ระดับน้ำ 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน, ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน–เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 37+000-39+500 ระดับน้ำ 55 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้, ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน เมืองน้อย–กันทรารมย์ ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่103+500-107+125 ระดับน้ำ 80-95 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
รวมถึงทางหลวงหมายเลข 2373 ตอน โนนสำนัก–ดอนไม้งาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 12+000-16+050 ระดับน้ำ 45-85 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน และทางหลวงหมายเลข 2412 ตอนท่าศาลา–ละทาย ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 12+000-16+500 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 60-70 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
3.จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1 แห่ง คือ ทางหลวงหมายเลข 2285 ตอน ประทาย1ชุมพวง ในพื้นที่ อ.ชุมพวง ช่วงกม.ที่ 18+700-20+300 ระดับน้ำ 20 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.2 ตรงไปถึงแยกบ้านวัดเลี้ยวขวาเข้า ทล.207, 4.จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 1 แห่ง คือ ทางหลวงหมายเลข 2146 ตอน หนองบัวลำภู–เขื่อนอุบลรัตน์ ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 39+500-42+000 ระดับน้ำ 20-70 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยง ทช.4013
5.จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 7 แห่ง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 24 ตอน วารินชำราบ–อุบลราชธานี ในพื้นที่อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 418+400-419+600 ระดับน้ำ 115 ซม. แนะนำเส้นทางเลี่ยง ทล.217 ทางแยกต่างระดับบัวเทิง เลี้ยวซ้ายไปสะพานข้ามแม่น้ำมูล เข้าสู่ตัวเมืองอุบลราชธานี, ทางหลวงหมายเลข 23 ตอน เขื่องใน–อุบลราชธานีในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 259+700-261+800 ระดับน้ำ 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
นอกจากนี้ ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง–วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 313+400-313+700 ระดับน้ำ 75 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน, ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง–วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 319+600-319+800 ระดับน้ำ 135 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน, ทางหลวงหมายเลข 231 ถนนวงแหวนรอบเมืองอุบลราชธานี ในพื้นที่อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 3+600-8+200 ระดับน้ำ 105-140 ซม. ใช้ทางเลี่ยงถนนวงแหวนด้านทิศตะวันออก ทล.231
ขณะเดียวกัน ทางหลวงหมายเลข 2404 ตอน เขื่องใน–นาคำใหญ่ ในพื้นที่ อ.เขื่องใน ช่วง กม.ที่ 14+120-14+550 ระดับน้ำ 60 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2408 และ 2382 และทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าวารี–ท่าศาลา ในพื้นที่ อ.เขื่องใน ช่วง กม.ที่ 9+500-10+325 ระดับน้ำ 25 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
6.จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 1 แห่ง คือ ทางหลวงหมายเลข 2391 ตอน กู่ทอง–บ้านเขื่อน พื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่17+300-กม.18+000 ระดับน้ำ 40 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.12 ช่วง กม.567+900, 7.จังหวัดสระบุรี จำนวน 1 แห่ง คือทางหลวงหมายเลข 3034 หน้าพระลาน–บ้านครัว ในพื้นที่ อ.บ้านหมอ ช่วง กม.ที่ 13+400-15+700 ระดับน้ำ 40 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
8.จังหวัดอ่างทอง จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 3501 ตอน อ่างทอง–บางหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมกช่วง กม.ที่ 9+900-10+400 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. น้ำท่วมผิวจราจร 10 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้และทางหลวงหมายเลข 3501 ตอน อ่างทอง–บางหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 10+400-11+000 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. น้ำท่วมผิวจราจร 10 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้
9.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 แห่ง คือ ทางหลวงหมายเลข 3412 ตอน อยุธยา–บางบาล ช่วง กม.ที่ 14+600-15+800 ระดับน้ำ 40 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยง เลี้ยวซ้ายเข้าวัดบ้านขวางออกทางหลวงชนบท 4038, 10.จังหวัดสิงห์บุรี จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน แยกวัดสนามไชย–วัดกระดังงา ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่33+500-35+100 ระดับน้ำ 105 ซม. (ทางโค้งด้านใน) การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงชนบทสห.3030, ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน วัดกระดังงา–บ้านม้า ในพื้นที่ อ.อินทร์บุรี ช่วง กม.ที่ 39+900-44+100 ระดับน้ำ 80 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย)
ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน วัดกระดังงา–บ้านม้า ในพื้นที่ อ.อินทร์บุรี ช่วง กม.ที่ 57+400-57+850 ระดับน้ำ 40 ซม. (ทางโค้งด้านใน) การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย) และทางหลวงหมายเลข 3030 ตอน ดงมะขามเทศ–บางระจัน ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 0+000-0+100 ระดับน้ำ 30 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ และ 11.จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 1 แห่ง คือ ทางหลวงหมายเลข 3522 ตอน เนินฝอยทอง–ทุ่งผักเบี้ย ในพื้นที่ อ.พยุหะคีรี ช่วง กม.ที่ 3+800-4+100 ระดับน้ำ 30 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้
ทั้งนี้ ทล.ได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที นอกจากนี้ ทล.ได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง ในบริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1