‘ทางหลวง’ แจงปม ‘ถนนแจ้งวัฒนะขาเข้า’ ทรุดตัว ชี้อยู่แนวเส้นทางสร้างรถไฟฟ้าสีชมพู เผยเหตุฝนตกหนัก จ่อเรียกผู้รับจ้างหารือพรุ่งนี้
“ทางหลวง” เร่งแก้ไขพื้นถนนแจ้งวัฒนะขาเข้า ช่วงซอยแจ้งวัฒนะ–ปากเกร็ด 29 ที่ กม.3+200 ทรุดตัว หลังเกิดฝนตกหนัก เผยอยู่ตามแนวเส้นทางโครงการรถไฟฟ้าสีชมพู พร้อมลุยหาสาเหตุแก้ไขอย่างยั่งยืน จ่อเรียกผู้จ้างหารือพรุ่งนี้ (12 ก.ย. 65) ซ่อมแซมให้แข็งแรงตามเดิม
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ตามที่มีการเสนอข่าวในวันนี้ (11 ก.ย. 2565) กรณีถนนแจ้งวัฒนะขาเข้าช่วงซอยแจ้งวัฒนะ–ปากเกร็ด 29 ที่ กม.3+200 ด้านซ้ายทางพื้นถนนทรุดตัว โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินการและแนะนำหลีกเลี่ยงเส้นทางนั้น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยต่อการเดินทางของประชาชนจากกรณีดังกล่าว ประกอบกับช่วงนี้มีสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ดังกล่าว อยู่ในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู จึงสั่งการด่วนให้กรมทางหลวงลงพื้นที่เร่งดำเนินการซ่อมแซมแก้ไข เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างสะดวกปลอดภัยโดยเร็วที่สุดพร้อมกำชับให้หาแนวทางแก้ไขระยะต่อไปอย่างยั่งยืน
โดยสำนักงานทางหลวงที่ 13 (กรุงเทพ) แขวงทางหลวงนนทบุรี และทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญได้ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบทันที ขอเรียนชี้แจงว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่บนทางหลวงหมายเลข 304 ซอยแจ้งวัฒนะ–ปากเกร็ด 29 บริเวณหน้าเฮลแลนด์ก่อนขึ้นสะพานข้ามแยกเมืองทองธานี ที่กม.3+200 ด้านซ้ายทาง ซึ่งอยู่ในโครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู งานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน
นายสราวุธ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา แขวงทางหลวงนนทบุรีได้รับแจ้งเหตุผิวจราจรชั่วคราวไม่ได้ระดับ แต่เนื่องด้วยการจราจรในพื้นที่อยู่ในช่วงเวลากลางวันไม่สามารถปิดการจราจรเพื่อสกัดผิวถนนซ่อมแซมได้ จึงแก้ไขชั่วคราวในขอบผิวจราจรที่ต่างระดับเบื้องต้นและจะดำเนินการซ่อมแซมในช่วงเวลากลางคืน แต่ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้รับจ้างแจ้งว่าบริเวณดังกล่าว มีน้ำท่วมขังทำให้ไม่สามารถซ่อมแซมได้แต่ได้คอยสังเกตการณ์ ประกอบกับมีฝนตกหนักต่อเนื่องจึงสามารถดำเนินการได้ในวันนี้ (11 ก.ย. 2565)
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากผู้ใช้เส้นทางจึงได้ปิดพื้นที่ดังกล่าวชั่วคราว พร้อมจัดเจ้าหน้าที่บริหารจัดการจราจรอำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชน โดยจากการวิเคราะห์สาเหตุการทรุดตัวของผิวจราจรพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นบ่อพักชั่วคราวที่อยู่ระหว่างดำเนินงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินในโครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู โดยผู้รับจ้างดำเนินการก่อสร้างท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินจากบ่อพักดังกล่าว
แต่เนื่องด้วยเกิดเหตุฝนตกหนักและมีเหตุน้ำท่วมขังในช่วงเวลาทำงาน 22.00-05.00 น. เป็นเวลาติดต่อกันหลายวันจึงไม่สามารถดำเนินการร้อยต่อสายไฟฟ้าใต้ดินระหว่างท่อกับบ่อพักได้ จึงเป็นเหตุให้วัสดุบริเวณใต้ถนนคอนกรีตและหน้าบ่อพักไหลเข้ามาภายในบ่อพักและเกิดการทรุดตัวของผิวจราจร โดยได้ดำเนินการแก้ไข ดังนี้
- ดำเนินการแก้ไขในส่วนของบ่อพักโดยการ Grout ระหว่างร้อยต่อสายไฟฟ้าใต้ดินระหว่างท่อกับบ่อพัก ในงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินโครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู
- ดำเนินการแก้ไขเพื่อคืนพื้นผิวจราจรให้สามารถเปิดการสัญจรชั่วคราวโดยการรื้อสกัดผิวถนนที่ทรุดตัว หาโพรงที่มีการรั่วซึมและนำทรายหยาบลง พร้อมเทคอนกรีต high strength fast setting แล้วปูแผ่นเหล็กทับชั่วคราว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดการจราจรตามปกติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชน
นายสราวุธ กล่าวอีกว่า ทล.ต้องขออภัยในความไม่สะดวกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับการแก้ไขในระยะต่อไปวันที่12 ก.ย. 2565 ทล.จะเชิญผู้รับจ้างเข้าหารือ เพื่อซ่อมแซมให้มีความมั่นคงแข็งแรงเช่นเดิม และจะมีการตรวจสอบการใช้งานเส้นทางที่รับผิดชอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจและได้รับความสะดวกความปลอดภัยในการเดินทาง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงฤดูฝนจึงขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย พร้อมปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนพบเห็นถนน/สะพานชำรุดเสียหายหรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งเหตุได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวงหมวดทางหลวงในพื้นที่ทั่วประเทศ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1
