บขส. กางแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ 30 ไร่ มูลค่า 7.6 พันล้าน ผุดมิกซ์ยูส-ปั้นรายได้ เตรียมเปิดเอกชนยื่นซอง ก.ย.-ต.ค.นี้

บขส.” เผิดแผนศึกษาพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ 30 ไร่ มูลค่า 7.6 พันล้านบาท นำร่องปิ่นเกล้าชลบุรี อัพเกรดพื้นที่เพิ่มรายได้ ผุดมิกซ์ยูสใจกลางกรุงฯ เตรียมเปิดโอกาสเอกชนยื่นข้อเสนอเช่าพื้นที่ ..-..นี้ พร้อมลุยศึกษาย้าย สถานีเอกมัยคาดศึกษาเสร็จภายในปี 66

นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ทั้ง 4 แปลง ประกอบด้วย ย่านเอกมัย, ย่าน 3 แยกไฟฉาย, ย่านปิ่นเกล้า และย่านชลบุรีว่า เบื้องต้นบขส.จะนำร่องพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ จำนวน 2 แปลงก่อน คือ ย่านปิ่นเกล้า และย่านชลบุรี เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการฯ

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน บขส.เตรียมที่จะนำเสนอแผนฯ ต่อคณะอนุกรรมการอสังหาริมทรัพย์พิจารณาภายใน .. 2565 หากผ่านความเห็นชอบคณะอนุกรรมการฯ แล้ว จากนั้นจะเสนอต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) บขส. พิจารณาเห็นชอบคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการประกาศเชิญชวนให้เอกชนผู้ที่สนใจเข้ามายื่นเสนอในการพัฒนาโครงการฯ โดยจะมีการกำหนดราคากลางขั้นต่ำ คาดว่า จะออกประกาญเชิญชวนให้เอกชนเข้าร่วมได้ภายใน ..-.. 2565

นายสัญลักข์ กล่าวอีกว่า การประมูลพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ในโครงการฯ นั้น บขส.จะเปิดกว้างให้แก่เอกชนผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูล นำเสนอผลงานในการพัฒนาโครงการฯ ส่วนจะเป็นรูปแบบระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาวนั้น ขึ้นอยู่กับเอกชนเป็นผู้ยื่นเสนอแผนดำเนินการ โดยอายุสัญญาเช่าโครงการฯ จะอยู่ที่ 30 ปี

ขณะที่รูปแบบการประมูล จะใช้รูปแบบพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน ..2562 (PPP) หรือไม่ ขึ้นอยู่กับมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (Net Present Value: NPV) และข้อเสนอของเอกชน ทั้งนี้บขส.จะต้องพิจารณาด้วยว่า ข้อเสนอใดมีผลประโยชน์ต่อ บขส.และภาครัฐมากที่สุด ก็จะได้รับคัดเลือกเป็นผู้ชนะโครงการฯ

ทั้งนี้ โครงการฯ ไม่จำเป็นต้องเสนอต่อกระทรวงคมนาคมและที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ เนื่องจากเป็นโครงการภายในกิจการของ บขส. ซึ่งจะเสนอต่อบอร์ด บขส.พิจารณาเท่านั้น แต่จะรายงานกระทรวงคมนาคม เพื่อรับทราบในการดำเนินโครงการฯ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการให้บริการเดินรถสาธารณะ โดยโครงการฯ ดังกล่าว บขส.ไม่ต้องดำเนินการก่อสร้างเอง เนื่องจากเป็นการให้เอกชนเช่าพื้นที่ดำเนินโครงการฯ อาทิ โครงการมิกซ์ยูส  โดยบขส.จะได้รับประโยชน์จากการที่เอกชนขอเช่าพื้นที่แทน

นายสัญลักข์ กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่ของแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ จำนวน 4 แปลง รวมพื้นที่ 30 ไร่ มูลค่า 7,641 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.ย่านเอกมัย มีพื้นที่ 7 ไร่ มูลค่า 2,500 ล้านบาท 2.ย่าน 3 แยกไฟฉาย มีพื้นที่ 3 ไร่ มูลค่า428 ล้านบาท 3.ย่านปิ่นเกล้า มีพื้นที่ 15 ไร่ มูลค่า 4,600 ล้านบาท และ 4.ย่านชลบุรี มีพื้นที่ 5 ไร่ มูลค่า 113 ล้านบาท

ทั้งนี้ พบว่า เอกชนส่วนใหญ่ให้ความสนใจพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณย่านสถานีเอกมัยมากที่สุด เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อยู่ใจกลางเมือง ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ได้มากขึ้น ส่วนการพัฒนาพื้นที่สายแยกไฟฉายนั้น ขณะนี้ติดปัญหาเรื่องการรื้อถอนระหว่างเขตทาง เนื่องจากบริเวณชุมชนโดยรอบมีการคัดค้าน ทำให้บขส.ต้องพิจารณาเรื่องข้อกฎหมายเพิ่มเติมด้วย

ขณะที่ การเช่าพื้นที่บริเวณที่ดินหมอชิต 2 นั้น บขส.จะขออนุญาตกระทรวงคมนาคมเช่าพื้นที่ดังกล่าวต่อไป เพราะเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมในการเชื่อมต่อการเดินทางที่สะดวกและเกิดประโยชน์ต่อผู้โดยสารสูงสุด โดยเฉพาะการเชื่อมต่อรถไฟสายสีแดงที่มีการเปิดให้บริการจากสถานีกลางบางซื่อ ก็สามารถเชื่อมต่อกับ บขส.ได้ หากมีการย้ายพื้นที่ออกไปอยู่ด้านนอก จะทำให้การจราจรติดขัด ทั้งนี้ คาดว่าในอนาคตจะมีรถชัตเตอร์บัสเข้ามาให้บริการร่วมด้วย

เรามองว่าหากมีการย้าย บขส.กลับมาอยู่บริเวณสถานีหมอชิตเก่าที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส จะมีการใช้วงเงินลงทุนที่สูงมาก อีกทั้งเอกชนยังไม่มีความชัดเจนว่าจะลงทุนและเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้เมื่อไรนายสัญลักข์ กล่าว

นายสัญลักข์ กล่าวต่ออีกว่า ปัจจุบัน บขส.อยู่ระหว่างศึกษาแผนย้ายรถโดยสารภายในสถานีเอกมัย ซึ่งในเบื้องต้นอาจจะพิจารณาให้สถานีดังกล่าว อยู่บริเวณรอบนอก หรือบริเวณไบเทคบางนา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการรองรับจุดจอดรถโดยสารแทนสถานีเอกมัยได้ ทั้งนี้ จะดำเนินการโดยการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันเพื่อแบ่งผลประโยชน์ของค่าเช่าพื้นที่

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ จะต้องรอความชัดเจนก่อนว่า จะเป็นอย่างไร โดยคาดว่า ผลการศึกษาแล้วเสร็จภายในปี2566 และจะเริ่มดำเนินการประกาศเชิญชวนให้เอกชนร่วมลงทุนได้ภายในปี 2567 ซึ่งหากดำเนินการได้จะช่วยชดเชยรายได้ในการให้บริการเดินรถโดยสารแก่ บขส.ด้วย