‘ศักดิ์สยาม’ สั่งจัดประชุมวางแผนมาตรฐานงานก่อสร้าง ‘ด้านความปลอดภัย’ ใช้ครั้งแรกในไทย หลังเกิดเหตุบ่อยครั้งบน ถ.พระราม 2
“ศักดิ์สยาม” เผยผลสอบเหตุคานสะพานกลับรถหน้า รพ.วิภารามถล่ม บน ถ.พระราม 2 รอสรุปผู้รับผิดชอบทั้งหมด สั่งเปลี่ยนเจ้าหน้าที่มาดำเนินการ มอบ “อธิบดี ทล.-ผู้ว่า กทพ.” ลงพื้นที่ตรวจทุกไซต์งาน พร้อมสั่งจัดประชุมวางแผนมาตรฐานงานก่อสร้างด้านปลอดภัยใช้ครั้งแรกในไทย ลุยตั้ง กก.สอบวินัยลงโทษฐานปฏิบัติงานพลาด ส่วนผู้เสียหายจากน้ำขังบนผ้าใบร่วงลงมาตกใส่รถ หากไม่พอใจเรื่องเยียวยา ยื่นร้อง “คมนาคม” ได้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเกิดอุบัติเหตุคานสะพานกลับรถร่วงหล่นบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) บริเวณหน้า รพ.วิภาราม เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายว่า ผลการตรวจสอบออกมาแล้ว เหลือเพียงรอสรุปว่า ผู้รับผิดชอบมีใครบ้าง ซึ่งในเบื้องต้นได้สั่งการให้เปลี่ยนผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยนำผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และความรับผิดชอบมาดำเนินการ
ขณะเดียวกัน มอบหมายให้นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) และนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ลงพื้นที่ตรวจสอบทุกไซต์งานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม จัดประชุมวางแผนมาตรฐานการก่อสร้างที่มีความปลอดภัย ซึ่งแผนดังกล่าว ยังไม่มีใช้ในประเทศไทย
นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวถึงกรณีเหตุการณ์น้ำขังผ้าใบโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 สายธนบุรี–ปากท่อ ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน–เอกชัย ตอน 1 ตกใส่รถยนต์จนทำให้กระจกแตกและหลังคายุบ เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า ได้สั่งการให้อธิบดี ทล. ไปดำเนินการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งในเรื่องดังกล่าว ผู้ต้องรับผิดชอบ คือ ผู้รับจ้าง โดยเรื่องบทลงโทษกับผู้รับจ้างเอกชนนั้น ในสัญญามีระบุไว้อยู่แล้ว
ส่วนจากรายงานข่าวที่ระบุว่า ผู้เสียหายแม้จะได้รับการประสานจากผู้รับเหมาโครงการ เพื่อเจรจารับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ผ่านมาแล้วก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ เพราะผู้เสียหายเห็นว่าค่าเยียวยาไม่ยุติธรรมนั้น นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ผู้เสียหายสามารถทำเรื่องร้องเรียนมาที่กระทรวงคมนาคมได้ โดยยืนยันว่า จะดำเนินการอย่างเป็นธรรม
ด้านนายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง) กล่าวว่า ในวันที่ 23 ส.ค.นี้ ตนเตรียมลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุบนถนนพระราม 2 ทั้ง 3 เหตุการณ์อุบัติเหตุ ประกอบด้วย 1.กรณีคานสะพานกลับรถร่วงหล่นถนนพระราม 2 ตอน สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน–นาโคก ที่กิโลเมตรที่ 34 บริเวณสะพานกลับใกล้โรงพยาบาลวิภาราม เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา
2.กรณีน้ำขังผ้าใบโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 สายธนบุรี–ปากท่อ ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน–เอกชัย ตอน 1 ตกใส่รถยนต์จนทำให้กระจกแตกและหลังคายุบ เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2565 และ 3.กรณีชิ้นส่วนเหล็กแบบหล่อสะพานไหลลอดช่องว่างของแผงกั้นเขตก่อสร้างโดนรถยนต์ได้รับความเสียหาน เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา
นายพิศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีคานสะพานกลับรถหน้า รพ.วิภารามร่วงหล่นถนนพระราม 2 นั้น เบื้องต้นพบว่า เป็นความผิดพลาดในการปฏิบัติงานของ ทล. และเกิดจากความประมาทของเจ้าหน้าที่ซึ่งได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยเพื่อลงโทษต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริงมีความโปร่งใส ไม่มีการแทรกแซงใดๆ ซึ่งหลังจากได้ข้อสรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมเอกสารหลักฐานทั้งหมดจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงฯ และทล.แล้ว คาดว่า จะรายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้ทราบไม่เกินวันที่ 25 ส.ค. 2565