ทช. ปักหมุด ‘ถนนนาคาวิถี’ เตรียมของบปี 67 สร้างเส้นทางเลียบแม่น้ำโขง 43 กม. หนุนท่องเที่ยว เชื่อมคมนาคมไทย-ลาว

ทางหลวงชนบทผนึกกำลัง ททท. ออกแบบถนนเลียบแม่น้ำโขงนาคาวิถี.มุกดาหารนครพนม กว่า กว่า 43 กม. เสร็จแล้ว เตรียมเสนอของบปี 67 เดินหน้าก่อสร้าง หนุนการท่องเที่ยว บูมคมนาคมขนส่งเชื่อมไทยลาว

รายงานข่าวจากกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ระบุว่า ทช.ได้ดำเนินการสำรวจและออกแบบโครงการก่อสร้างขยายถนนเลียบแม่น้ำโขงนาคาวิถี ช่วงสะพานมิตรภาพไทยลาว (แห่งที่ 2)-พระธาตุพนม .เมือง .มุกดาหาร, .ธาตุพนม.นครพนม แล้วเสร็จ ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการสำรวจและออกแบบแล้วเสร็จสมบูรณ์ และจะเตรียมของบประมาณในปี2567 ต่อไป

สำหรับแนวเส้นทางมีจุดเริ่มต้นบริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหารสะหวันนะเขต)-หาดมโนภิรมย์วัดสองคอนแก่งกะเบา และไปสิ้นสุดโครงการบริเวณทางเข้าพระธาตุพนม บนโครงข่ายถนนทางหลวงชนบททสาย มห.3003 และ นพ.3015 รวมระยะทาง 43.485 กิโลเมตร (กม.)

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามแผนของ ทช.ที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยร่วมมือกันระหว่าง ทช. และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่จะพัฒนาเส้นทางเลียบแม่น้ำโขงให้เป็นถนนเพื่อการท่องเที่ยว ภายใต้กรอบของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (.. 2561 – 2580) จึงได้ดำเนินการสำรวจและออกแบบโครงการก่อสร้างขยายถนนเลียบแม่น้ำโขงนาคาวิถี พร้อมปรับปรุงพื้นที่และทัศนียภาพ

โดยจะช่วยเพิ่มศักยภาพต่อเติมโครงข่ายทางให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น พัฒนาถนนให้เป็นถนนเพื่อการท่องเที่ยวและเส้นทางชมทิวทัศน์ (Scenic Route) รวมทั้งยกระดับถนนให้มีความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางอย่างเต็มประสิทธิภาพ สนับสนุนให้เกิดการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยว การขนส่ง การลงทุนในพื้นที่ นำไปสู่การสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ตลอดสายทางผู้ใช้เส้นทางจะได้พบกับความงดงามของทัศนียภาพของแม่น้ำโขง หาดทรายน้ำจืด และเกาะแก่งต่างๆ รวมไปถึงความงดงามของศาสนสถานของศาสนาพุทธ/ศาสนาคริสต์ ตลอดจนวิถีชีวิตของชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่น่าค้นหา บนพื้นฐานการพัฒนาที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ที่ผูกพันกับสายน้ำและพระพุทธศาสนา ตามแนวคิดสายน้ำแห่งความเชื่อ เส้นทางแห่งความศรัทธานาคาวิถี

ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมา ทช.ได้มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 2 ครั้ง โดยเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้มีการสรุปผลการดำเนินโครงการให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ที่อาจได้รับผลกระทบและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ได้รับทราบรายละเอียดของโครงการ

อีกทั้งก็เปิดโอกาสให้ร่วมพิจารณาแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะในด้านต่างๆ จากนั้น ทาง ทช.จะได้นำประเด็นที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนไปประกอบการดำเนินโครงการให้มีความสมบูรณ์และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างสูงสุดต่อไป