‘เอ.เอ็ม.เอส.’ เปิดตัวโปรแกรม ‘THE AI LOGISTICS’ ครบวงจร ตั้งธงดึง 200 บริษัทด้านโลจิสติกส์ เข้าร่วมใช้ภายในปี 65
“เอ.เอ็ม.เอส. โลจิสติกส์” เดินหน้าพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ “THE AI LOGISTICS” หวังอัพเกรดโลจิสติกส์ SMEs ไทย ชู 3 บริการหลัก สร้างระบบบริหารจัดการแบบครบวงจร จ่อดึง 200 บริษัทด้านโลจิสติกส์ร่วมใช้ซอฟต์แวร์ THE AI LOGISTICS ภายในปี 65
นายโสฬส ชาติงาม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ.เอ็ม.เอส โลจิสติกส์ จำกัด ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ THE AI LOGISTICS เปิดเผยว่า จากการที่ได้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับชิปปิ้งในช่วงตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ได้เล็งเห็นถึงปัญหาสำคัญของระบบอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทโลจิสติกส์ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ที่ไม่มีการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์โลจิสติกส์ ให้มีประสิทธิภาพเพียงพอ ส่งผลให้มีกระบวนการที่ซ้ำซ้อนในการทำงาน เป็นสาเหตุให้เกิดความผิดพลาด เสียเวลา และค่าใช้ที่จ่ายสูงขึ้นเกินความจำเป็นการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการยกระดับขีดการแข่งขันในธุรกิจโลจิสติกส์ของประเทศไทย
ทั้งนี้ ล่าสุด บริษัท เอ.เอ็ม.เอส. โลจิสติกส์ จำกัด จึงได้พัฒนาระบบซอฟต์แวร์ THE AI LOGISTICS ขึ้นมาโดยคำนึงถึงความสามารถในการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร (Total Logistics Software) ที่สามารถจัดการงานโลจิสติกส์ งานบัญชี รวมถึงการจัดการให้ได้มาซึ่งสถิติสำคัญที่ต้องอาศัยแรงงานคนที่มีต้นทุนสูง เป็นเรื่องง่าย แก้ปัญหาระบบการทำงานที่ล่าช้า มีความยืดหยุ่นต่ำ ส่งผลให้ศักยภาพการแข่งขันลดลง
อีกทั้ง ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดความผิดพลาด และเวลาการทำเอกสาร อาทิ ระบบบัญชีที่สามารถรับข้อมูลจากแผนกโลจิสติกส์ เพื่อสร้างใบแจ้งหนี้และใบวางบิล โดยปราศจากการคีย์ซ้ำไปจนถึงระบบการเก็บเงินหรือระบบภาษี ที่สะดวกรวดเร็วและสอดรับกับกฎหมายของประเทศไทย โดยในปัจจุบัน บริษัทได้รับการคัดเลือกจาก สมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสมาคมด้านโลจิสติกส์ที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ที่จะร่วมมือกันสนับสนุนให้สมาชิกที่มีมากกว่า 1,500 บริษัทฯ สามารถเริ่มทดลองใช้ซอฟต์แวร์ดังกล่าวได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ระบบซอฟต์แวร์โลจิสติกส์ในบ้านเราไม่ได้ออกแบบมาให้สามารถทำงานได้อย่างครบวงจรเมื่อเทียบกับซอฟต์แวร์ของบริษัทข้ามชาติ หากเลือกที่จะใช้ซอฟต์แวร์ของบริษัทข้ามชาติก็จะพบว่าซอฟต์แวร์มีราคาสูง อีกทั้ง การออกแบบยังไม่มีความเหมาะสมกับกฎหมาย และวัฒนธรรมของประเทศไทย หรือหากจะลงทุนพัฒนาระบบซอฟต์แวร์เป็นของตัวเองก็มีต้นทุนสูงเกินกว่าที่ SMEs จะจ่ายได้” นายโสฬส กล่าว
สำหรับระบบซอฟต์แวร์ THE AI LOGISTICS ประกอบด้วย 3 บริการหลัก ได้แก่
- โปรแกรม AI Shipment หรือ ระบบจัดการงานโลจิสติกส์ ระบบที่ครอบคลุมกระบวนการทำงานตั้งแต่รับงานจนถึงการออกงบการเงินแบบ Real time โดยไม่ต้องคีย์ซ้ำ ช่วยลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น ที่สามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกอุปกรณ์
- โปรแกรม HS Code Check หรือ โปรแกรมจัดการงานด้านพิกัดศุลกากร ระบบที่รวมพิกัด และ คำวินิจฉัยไว้ในที่เดียว
- โปรแกรม Logistics Library หรือ ระบบบริหารจัดการความรู้ภายในองค์กร ระบบที่จะทำให้ความรู้ติดอยู่กับองค์กร ไม่ใช่พนักงานคนใดคนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักในการดำเนินธุรกิจของบริษัท เอ.เอ็ม.เอส. โลจิสติกส์ จำกัด นอกจากการพัฒนาซอฟต์แวร์แล้ว ยังที่จะมุ่งยกระดับโลจิสติกส์ SMEs ไทย โดยในปัจจุบัน ข้อมูลจาก DBD ณ วันที่ 6 ก.ค. 2565 ประเทศไทยมีบริษัทโลจิสติกส์ที่ยังดำเนินกิจการอยู่ประมาณ 4,500 บริษัท และมากกว่า 90% เป็น SMEs ซึ่งเราเชื่อว่ายังไม่มีซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ เอ.เอ็ม.เอส โลจิสติกส์ จึงตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถดึงบริษัทฯ เข้าร่วมใช้งานโปรแกรม THE AI LOGISTICS ได้มากกว่า 200 บริษัทฯ ภายในปี 2565