สมาคมประกันชีวิตไทย คาดปี 62 เติบโตต่อเนื่องเพิ่มขึ้นประมาณ 3-5% มีเบี้ยประกันภัยรับรวมประมาณ 648,000-650,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจในประเทศที่จะขยายตัว 4% รวมถึงการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติประกันชีวิตให้มีความเหมาะสมต่อการดำเนินงานในปัจจุบัน และสามารถแข่งขันได้อย่างเสรี
นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ปี 2562 คาดว่าธุรกิจประกันชีวิตจะยังคงมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องเพิ่มขึ้นประมาณ 3-5% มีเบี้ยประกันภัยรับรวมประมาณ 648,000-650,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจในประเทศที่จะขยายตัว 4% ภายใต้การส่งเสริมด้านการลงทุนของภาครัฐ การขยายตัวของการท่องเที่ยว และการปรับตัวดีขึ้นของสินค้าเกษตร
นอกจากนี้ แล้วยังมีปัจจัยส่งเสริมโดยตรงจากภาครัฐและหน่วยงานกำกับ เพื่อให้ธุรกิจประกันชีวิตสามารถแข่งขันได้อย่างเสรี
อาทิ การปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติประกันชีวิตให้มีความเหมาะสมต่อการดำเนินงานในปัจจุบัน
การผ่อนคลายกฏระเบียบเรื่องการลงทุนของภาคธุรกิจ มาตรการส่งเสริมให้ภาคธุรกิจยื่นขอความเห็นชอบกรมธรรม์แบบอัตโนมัติมากขึ้น
เพื่อลดระยะเวลาในการอนุมัติแบบประกัน
การส่งเสริมให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันชีวิตแก่ประชาชน
การวางแผนสุขภาพของประชาชนในระยะยาวกับการส่งเสริมการดูแลสุขภาพด้วยสิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้ส่วนบุคคลจากเบี้ยประกันภัยสุขภาพจำนวน 15,000 บาท และล่าสุดกับมาตรการของกระทรวงพาณิชย์ในการควบคุมราคาค่ายา ค่าเวชภัณฑ์
และค่าบริการทางการแพทย์ พร้อมด้วยปัจจัยสนับสนุนจากการแข่งขันของภาคธุรกิจทั้งในเรื่องของผลิตภัณฑ์
การบริการและช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ส่วนทิศทางธุรกิจประกันชีวิตในปีนี้ ผลิตภัณฑ์
Single Premium และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุนยูนิตลิงก์
(Unit- Linked ) ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเข้าสู่โลกดิจิทัลทั้งในเรื่องข้อมูล
การให้บริการตลอดจนการขายผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่
การพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพให้กับคนกลางประกันภัยอย่างสม่ำเสมอ
นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ปี 2562 จะไม่ได้เป็นปีหมูทองสำหรับธุรกิจประกันชีวิต จากเหตุที่ต้องพบกับปัจจัยท้าทายที่รออยู่ หากแต่เชื่อมั่นว่าธุรกิจประกันชีวิตก็จะยังคงเติบโตได้ดี เพราะมีการตั้งรับและเตรียมตัวอย่างดี มีความร่วมมือของทั้งภาคอุตสาหกรรมในการปรับปรุงและพัฒนากรมธรรม์ประกันสุขภาพ รวมถึงพัฒนาระบบฐานข้อมูลการประกันภัย (Insurance Bureau System : IBS) เพื่อประโยชน์ในการวางแผนและกำหนดยุทธศาสตร์ประกันชีวิต และป้องกันปัญหาข้อร้องเรียนในอนาคต