” อมตะ ” เล็งนำโซลาร์ผลิตไฟช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนค่าพลังงาน

“อมตะ” ส่งสัญญาณบวกเศรษฐกิจไทย หลังรัฐยกเลิก ระบบ Test and Go   แนะ ต้องศึกษามาตรการทางสาธารณสุขของแต่ละประเทศอีกครั้ง หวั่นเป็นอุปสรรค การตัดสินใจเดินทางเข้าไทย  เล็งร่วมมือพันธมิตร รุกธุรกิจ ผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ มุ่งลดต้นทุนค่าพลังงาน ให้โรงงานในนิคมฯ

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า จากมาตรการของรัฐบาลในการ ปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์และวิธีการสำหรับนักท่องเที่ยวและคนไทย ที่จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ให้ยกเลิกระบบ Test and Go โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป  มั่นใจว่าจะทำให้เกิดการผ่อนคลายการค้าการลงทุนมากขึ้น ถือเป็นสัญญาณบวกทางเศรษฐกิจของประเทศ    แต่ยังมีประเด็น ที่ต้องพิจารณาเงื่อนไขและมาตรการเฝ้าระวังการระบาดของประเทศที่จะเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย เพราะความเข้มข้นของแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน ดังนั้นคงมองที่มาตรการของไทยเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เชื่อว่าหลายประเทศ เมื่อนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจเดินทางกลับจากไทยแล้วต้องเข้าสู่เกณฑ์การกักตัว ตามมาตรการสาธารณสุข ซึ่งอาจเป็นเงื่อนไข และปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจในการเดินทางระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตามบรรยากาศการลงทุนในปี 2565   ในช่วงที่ผ่านมา ถือว่ามีความผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แม้สถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 จะมียอดผู้เสียชีวิตอยู่ในเกณฑ์มากกว่า 100 คนต่อวัน แต่จะพบว่าภาคการผลิตในนิคมฯ ยังมีการลงทุนขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง แม้ช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนใหม่ๆ จะชะลอการตัดสินใจเข้ามาลงทุน เพราะต้องรอสถานการณ์การแพร่ระบาด และมาตรการผ่อนคลายทางสาธารณสุขทั้งนี้จาก วิกฤติการแพร่ระบาดโควิด ที่ผ่านมา นับเป็นตัวเร่งที่สำคัญ ทำให้หลายบริษัทมีการปรับตัว  โดยการนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และยังคงเชื่อว่า การพัฒนาจะยังไม่หยุดนิ่ง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องของราคาพลังงานที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบ ระหว่างรัสเซีย และยูเครน เป็นอีกปัจจัย ที่ทำให้ภาคการผลิต ต้องนำเทคโนโลยี พลังงานหมุนเวียน เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนค่าพลังงาน ในส่วนกลุ่มอมตะ ได้ร่วมมือกับ พันธมิตรด้านพลังงาน  และบริษัทในเครือ ศึกษาความเป็นไปได้ในการนำพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะการใช้พลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์เซลล์ ) เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้า ในรูปแบบต่างๆ  เพื่อป้อนให้กับโรงงานที่มีอยู่ ทั้ง 2 นิคมฯ ซึ่งปัจจุบันมีโรงงานรวมกันเกือบ 2,000 โรงงาน ในนิคมฯอมตะซิตี้ ชลบุรี นิคมฯ อมตะซิตี้ระยอง