‘ศักดิ์สยาม’ สแกนความพร้อม ‘สุวรรณภูมิ’ สนอง ‘นายกฯ’ รับมาตรการ 1 มิ.ย.นี้ คาดผู้โดยสารแตะ 7 หมื่นคน/วัน ภาพรวมสิ้นปีเข้าไทยกว่า 22 ล้านคน เผย ‘ฝีดาษวานร’ ยังไม่น่ากังวล

“ศักดิ์สยาม” สแกนความพร้อม “สุวรรณภูมิ” รับผ่อนคลายมาตรการยกเลิก Thailand Pass “ชาวไทย” ดีเดย์ 1 มิ.ย.นี้ คาดผู้โดยสารแตะ 7 หมื่นคน/วัน ด้านสิ้นปี 65 นักท่องเที่ยวแห่เดินทางเข้าไทยมากกว่า 22 ล้านคน ลุ้นชาวจีน-ข้อพิพาทรัสเซีย & ยูเครน เผยนายกฯ สั่งกำชับสวมแมสก์ หวังให้สถานการณ์ดีขึ้น ระบุ “ฝีดาษวานร” ยังไม่น่ากังวล

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันนี้ (30 พ.ค. 2565) ตรวจความพร้อมขั้นตอนการให้บริการและการอำนวยความสะดวกผู้โดยสารว่า จากการปรับมาตรการผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2565 ตามนโยบายพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นการปรับแผนการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติมากขึ้น

ทั้งนี้ ผู้โดยสารชาวต่างชาติ ยังคงต้องลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass แต่ปรับลดประเภทเอกสารต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการลงทะเบียน สำหรับคนไทยตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2565 ยกเว้นการใช้ระบบ Thailand Pass ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวและการเดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้น

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินจะทยอยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า มิ.ย. 2565 จะมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นในภาพรวมประมาณ 17% หรือ 70,000 คนต่อวัน จากประมาณ 64,000 คนต่อวันใน พ.ค. 2565 แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 57% และในประเทศ 43% ขณะที่จำนวนเที่ยวบินนั้น คาดว่าจะเพิ่มเป็นเฉลี่ยวันละประมาณ 500 เที่ยวบิน จากเฉลี่ยวันละประมาณ 440 เที่ยวบินใน พ.ค. 2565 แยกเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 55% และเที่ยวบินในประเทศ 45%

ผมได้รับข้อสั่งการจากนายกฯ ว่า แม้สถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศจะลดลงเรื่อยๆ แต่ขอให้ทุกหน่วยงานยังคงกำชับเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่า ในช่วงไตรมาส 4/2565 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น นักท่องเที่ยวมีการจองตั๋วเป็นจำนวนมาก หรือประมาณ 50% ของนักเดินทางเมื่อช่วงก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เมื่อปี 2562 โดยคนไทยต้องช่วยกัน และเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมาประเทศไทย ซึ่งตอนนี้ 6 ท่าอากาศยานของ ทอท. และท่าอากาศยานกระบี่ของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) มีความพร้อมรับนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน” นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ในปี 2565 คาดการณ์ว่า ภาพรวมของผู้โดยสารที่จะเดินทางมายังประเทศไทย จะมีประมาณ 22 ล้านคน แต่ตนเชื่อว่า จะมากกว่านั้น ซึ่งจะต้องดูมาตรการการเดินทางของของนักท่องเที่ยวชาวจีนว่า หลังวันที่ 1 มิ.ย. 2565 จะเป็นอย่างไร ประกอบกับดูสถานการณ์ข้อพิพาทระหว่างรัสเซียและยูเครนด้วย

สำหรับกรณีการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานรในต่างประเทศนั้น ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศได้เริ่มดำเนินการกระบวนการคัดกรองผู้เดินทางจากประเทศที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษแล้ว และได้กำหนดขั้นตอนปฏิบัติหากพบผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ต้องสงสัย การสอบสวนโรค รวมถึงขั้นตอนการส่งต่อผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ผู้ป่วยไปยังสถาบันบำราศนราดูร โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ยังไม่มีสถานการณ์น่ากังวล

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า การปฏิบัติงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทันทีที่ ศบค. ได้มีมติผ่อนคลายข้อกำหนดการเข้าประเทศเพิ่มเติม ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกับ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (EOC) ในการซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการคัดกรองตามข้อกำหนดใหม่ เพื่อให้การบริการแก่ผู้โดยสารเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ออกประกาศมาตรการตั้งแต่ 1 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป ดังนี้ 1.ผู้โดยสารสัญชาติไทยได้รับการยกเว้นการใช้ Thailand Pass ในการเดินทางเข้าประเทศ โดยจะต้องแสดงหลักฐานการรับวัคซีนหรือแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด โดยสามารถดูรายชื่อวัคซีนได้ที่ www.caat.or.th 2.ผู้โดยสารชาวต่างชาติจะต้องลงทะเบียน Thailand Pass ก่อนการเดินทาง โดยจะได้รับ QR CODE หลังจากการลงทะเบียน ทั้งนี้ สายการบินอาจปฏิเสธการให้ขึ้นเครื่องบิน หากผู้โดยสารไม่แสดง QR CODE ของ Thailand Pass

3.ผู้โดยสารที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องมีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ แนะนำว่าให้ตรวจหาเชื้อด้วย RAPID ANTIGEN TEST (ATK) เมื่อมีอาการ 4.ผู้โดยสารชาวต่างชาติที่เป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบถ้วนจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี PROFESSIONAL ATK หรือ RT-PCR ก่อนการเดินทาง 72 ชั่วโมง 5.ผู้โดยสารชาวต่างชาติจะต้องมีประกันสุขภาพวงเงินไม่ต่ำกว่า USD 10,000 หรือหนังสือรับรองการรักษาพยาบาลตลอดระยะเวลาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย

6.สายการบินจะต้องตรวจสอบว่าผู้โดยสารชาวต่างชาติมี QR CODE ของ Thailand Pass ในกรณีที่ตรวจพบว่าผู้โดยสารชาวต่างชาติไม่มี QR CODE ของ Thailand Pass เมื่อมาถึงประเทศไทย สายการบินมีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลผู้โดยสาร 7.ผู้โดยสารที่ไม่มี THAILAND PASS, เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนหรือ ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี PROFESSIONAL ATK หรือ RT-PCR จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ด่านกักกันโรค และ8.ผู้ดำเนินงานสนามบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การตรวจวัดอุณหภูมิคัดกรองขาเข้าและขาออก ตามที่ราชการกำหนด