ไปเที่ยวกัน! ทล. แนะ 5 เส้นทางชม ‘เขื่อน’ ทั่วไทย ช่วงหยุดยาว พ.ค.65 กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ฝ่าวิกฤติโควิด-19

ทางหลวงแนะนำ 5 เส้นทางชมเขื่อนหนุนท่องเที่ยวช่วงหยุดยาว .. 65 กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ฝ่าโควิด-19 พร้อมวอนนักท่องเที่ยวไม่จอดยานพาหนะกีดขวางจราจรบนทางหลวง

รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) ระบุว่า ทล.เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเดินทางท่องเที่ยว ตามมาตรการของรัฐบาลที่เร่งเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง เป็นการกระตุ้นให้คนไทยหันมาท่องเที่ยวภายในประเทศมากยิ่งขึ้น ในส่วนของ ทล.ได้เตรียมความพร้อมในด้านความปลอดภัยทางถนน พร้อมกับปรับภูมิทัศน์สองข้างทางเพื่ออำนวยความสะดวกด้านทัศนวิสัยในการขับขี่

ในปัจจุบันกระแสการเที่ยวเขื่อนกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เขื่อนและอ่างเก็บน้ำที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 90% เกิดขึ้นจากโครงการในพระราชดำริฯ เพื่อทำหน้าที่กักเก็บน้ำ และใช้ในการเกษตรกรรม อุปโภค บริโภค ใช้สำหรับป้องกันน้ำท่วมฉับพลันในฤดูที่น้ำไหลหลาก และเขื่อนยังมีหน้าที่หลักในการผลิตกระแสไฟฟ้า ปัจจุบันหลายเขื่อนได้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่ประชาชนสามารถเข้ามาพักผ่อน

ทั้งนี้ ทล.จึงได้รวบรวม “5 เส้นทางชมเขื่อนมาให้เป็นตัวเลือกให้กับนักท่องเที่ยว โดยกรมทางหลวงได้ทำความสะอาด ตกแต่ง ปรับปรุงป้ายให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์เพื่อรองรับการเดินทางท่องเที่ยวของประชาชนในจังหวัดต่างๆ ดังนี้

1.เขื่อนลำตะคอง .นครราชสีมา เป็นเขื่อนดิน บริเวณรอบขอบเขื่อนเก็บน้ำจะอยู่ติดริมทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) มีทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 สาย บางปะอินโคราช ระยะทาง 196 กิโลเมตร (กม.) ขนานทอดยาวไปตามแนวเขื่อน โดยสื่อสังคมออนไลน์ได้ยกให้เป็นถนนลอยฟ้าที่สวยที่สุดในประเทศไทย สำหรับการเดินทางจาก .ปากช่อง ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) มุ่งหน้าโคราช อยู่ระหว่าง กม.184-193

2.เขื่อนภูมิพล .ตาก เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆของ .ตาก และเป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ตั้งอยู่ในพื้นที่ .บ้านนา .สามเงา .ตาก สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำให้แก่เกษตรกรเป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า การเดินทาง ไปตามทางหลวงหมายเลข 1357 ที่ กม.15+050 ตอน ทางเข้าเขื่อภูมิพลตัดจากถนนหมายเลข 1 ที่กม. 566+600 ด้านซ้ายทาง ตอน วังม่วงแม่เชียงรายบน

3.เขื่อนวชิราลงกรณ์ .กาญจนบุรี ตั้งอยู่บนแม่น้ำแควน้อย เพื่อประโยชน์ด้านชลประทานและผลิตไฟฟ้า ตัวอ่างเก็บน้ำอยู่ในส่วนท้องที่ .ทองผาภูมิ, .สังขละบุรี .กาญจนบุรี เขื่อนวชิราลงกรณ์จึงจัดเป็นเขื่อนอเนกประสงค์และยังเป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทย การเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 มุ่งหน้าจังหวัดราชบุรี ระยะทางประมาณ 65 กม. และใช้ทางหลวงหมายเลข 323 ต่อเนื่องทางหลวงหมายเลข 3272 มุ่งหน้าอำเภอทองผาภูมิจังหวัดกาญจนบุรี ระยะทางประมาณ 300 กม. ทางเข้าเขื่อนวชิราลงกรณ์จะอยู่ทางขวามือ

4.เขื่อนเจ้าพระยา .ชัยนาท เขื่อนทดน้ำแห่งแรกของประเทศไทยและเป็นสายเลือดใหญ่ที่ใช้ประโยชน์ทางด้านชลประทานและการทดน้ำเพื่อการเกษตรโดยระบายน้ำจากแม่น้ำในภาคเหนือสู่ภาคกลางและอ่าวไทย ส่งต่อไปยังพื้นที่เพาะปลูกภาคกลาง การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 311 ชัยนาท จากอำเภอเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข304 และเลี้ยวซ้ายทางไปอำเภอสรรพยา ประมาณ 6 กม.

5.เขื่อนลำพระเพลิง .นครราชสีมา อยู่ในเขตอำเภอปักธงชัย เขื่อนลำพระเพลิง แห่งนี้ก็มีชื่อเสียงเรื่องความสวยงามทางธรรมชาติที่โดดเด่น ด้วยลักษณะภูมิประเทศ สองฟากฝั่ง เป็นป่าไม้เขียวขจีร่มรื่น และตอนต้นแม่น้ำยังมีน้ำตกสวยงามต่าง นักท่องเที่ยว ทั่วไปมักนิยมเดินทางมาชมทัศนียภาพ วิวทิวทัศน์และตากอากาศแถวบริเวณเขื่อน การเดินทางจากสี่แยกลำพระเพลิง บนทางหลวงหมายเลข 304 บริเวณ กม.267+692 เดินทางมุ่งหน้าเขื่อนลำพระเพลิงอีก 28 กม.

ทั้งนี้ กรมทางหลวงให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชน รวมไปถึงดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศโดยการสัญจรทางถนน ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของประชาชนในพื้นที่และสร้างเส้นทางแห่งการท่องเที่ยวต่อไป ทล.ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวไม่จอดยานพาหนะกีดขวางการจราจรบนทางหลวง

อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวเดินทางอย่างปลอดภัยและใส่ใจสิ่งแวดล้อม โปรดขับรถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง และปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุขภายใต้วิถีชีวิตรูปแบบใหม่ท่องเที่ยวสุขใจ ห่างไกลโควิด-19” สวมหน้ากาก ล้างมือ รักษาระยะห่าง หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)