มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดตัวแรลลี่อาร์ตสองรุ่นใหม่ พร้อมวางเป้าปี 67 ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวแผนธุรกิจพร้อมผลิตรถยนต์นั่งที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทุกรุ่นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป การประกาศแผนงานครั้งนี้จะนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เพื่อมุ่งสู่โลกแห่งยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต โดยในปี 2565 นี้ บริษัทยังมีแผนการเปิดตัวมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ต่อยอดความสำเร็จของการเป็นรถเอ็มพีวีที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประเทศไทย พร้อมด้วยการเผยโฉมรถยนต์แรลลี่อาร์ตสองรุ่นใหม่ ได้แก่ มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่อาร์ต ดับเบิลแค็บ และมิตซูบิชิ มิราจ แรลลี่อาร์ต ทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับตำนานของแรลลี่อาร์ต พบกับรถยนต์ทุกรุ่นได้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43

“ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสอดคล้องกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลกของเราที่ต้องการลดมลพิษคาร์บอนไดออกไซด์ในรถยนต์รุ่นใหม่ลงร้อยละ 40 และเพิ่มสัดส่วนสู่เป้าหมายการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ให้ถึงร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ. 2573 โดยนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป เรามีความมุ่งมั่นนำเสนอระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าในรถยนต์นั่งทุกรุ่นของเราออกสู่ตลาดเมืองไทย” มร. เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังแนะนำรถยนต์แรลลี่อาร์ตสองรุ่นใหม่ ได้แก่ มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่อาร์ต ดับเบิลแค็บ และมิตซูบิชิ มิราจ แรลลี่อาร์ต ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เพิ่มทางเลือกในกลุ่มรถยนต์แรลลี่อาร์ตสำหรับลูกค้าที่หลงใหลในความตื่นเต้นและเร้าใจที่ถ่ายทอดชัยชนะจากสนามแข่งตามแบบฉบับของแบรนด์แรลลี่อาร์ตระดับตำนาน

“เราจะเดินหน้ายกระดับรถยนต์และบริการหลังการขายของเราเพื่อลูกค้าชาวไทย ด้วยการหลอมรวมวิสัยทัศน์แบบ Mitsubishi Motors-ness ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความมั่นใจ และความสะดวกสบาย รวมถึงความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ประสบการณ์ด้านมอเตอร์สปอร์ตที่เราสั่งสมจากการคว้าชัยชนะในสนามแข่งแรลลี่สุดหฤโหดทั่วโลกถูกถ่ายทอดสู่รถยนต์รุ่นใหม่ของเราในรูปแบบของเทคโนโลยีในรถยนต์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทุกรุ่นในปัจจุบัน ศูนย์การวิจัยและพัฒนาของเรามีการทดสอบรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่นในการจำลองสถานการณ์และสภาพแวดล้อมหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้แน่ใจว่ารถยนต์ของเราตอบสนองการใช้งานด้วยความเป็นเลิศในสภาพอากาศและสภาพถนนทุกรูปแบบ” มร. โคอิโตะ กล่าวเพิ่มเติม