“สำนักงานทางหลวง 16” จ.นครศรีธรรมราช เร่งติดตั้งสะพานเบลี่ย์ให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน หลังฝนตกหนักทำทางเบี่ยง “สะพานคลองกัน 3” ขาด กระทบ ปชช. เดินทางระหว่าง อ.นบพิตำ–ต.กรุงชิง รถไม่สามารถผ่านได้ พร้อมแนะปชช.เดินทางด้วยความระมัดระวัง
นายไพจิตร แสงทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 16 นครศรีธรรมราช กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ทางหลวงหมายเลข 4186 ตอนโรงเหล็ก–ห้วยพาน บริเวณ กม. 5+722 (สะพานคลองกัน 3) ว่า ตามที่วานนี้(15 ก.พ. 2565) เมื่อเวลา 21.00 น. ได้มีฝนตกในพื้นที่หลายอำเภอ โดยเฉพาะ อ.นบพิตํา และ อ.สิชล มีฝนตกหนักถึงหนักมาก (ระดับ 4-5 ปริมาณน้ำฝนหมู่ 2 ต.นบพิตำ วัดได้ 285 มม., หมู่ 7 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ วัดได้ 110 มม.) จนถึงช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 17 ก.พ. 2565 ฝนเริ่มลดระดับความรุนแรง สลับกับหยุดตก ทำให้ทางเบี่ยงการจราจรที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างสะพานใหม่ (สะพานคลองกัน 3) ถูกกระแสน้ำพัดตัดขาด ส่งผลให้ประชาชนสัญจรลำบาก และรถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดั้งกล่าว นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดี ทล. ได้สั่งการให้สำนักงานทางหลวงที่ 16 และศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 4 (นครศรีธรรมราช)เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน โดยให้ประสานงานกับบริษัทผู้รับจ้าง เพื่อทำการติดตั้งสะพานเบลี่ย์ให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด พร้อมกันนี้ ได้จัดชุดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ และผู้ใช้เส้นทาง พร้อมทั้งติดตั้งป้ายบอกทาง โดยคาดว่าจะติดตั้งสะพานเบลี่ย์ให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน
สะพานคลองกัน 3 เป็นจุดที่อยู่ระหว่างการสร้างสะพานใหม่ เพื่อทดแทนสะพานเดิมที่มีความชำรุดเกิดการทรุดตัวจากการเกิดน้ำท่วมเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมาเนื่องจากบริเวณดังกล่าว เป็นหุบเขา มีทางน้ำผ่านจากหุบเขาในปริมาณที่เยอะมาก ทล.จึงได้จัดสรรงบประมาณวงเงิน 60 ล้านบาท ดำเนินการก่อสร้างสะพานใหม่ ซึ่งตามแผนจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน ก.ย. 2565 ซึ่งปัจจุบันได้ทำการรื้อสะพานเก่าออกแล้ว และได้สร้างทางเบี่ยง เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้สัญจรชั่วคราว แต่เนื่องจากขณะนี้ในพื้นที่เกิดฝนตก ทำให้ทางเบี่ยงขาด” นายไพจิตร กล่าว
นายไพจิตร กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนใช้เส้นทางด้วยความระมัดระวัง หากมีความจำเป็นต้องเดินทางโปรดศึกษาและเผื่อระยะเวลาในการเดินทาง รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ใช้ทางปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำทางเลี่ยง และสัญญาณจราจรที่ติดตั้งไว้ เพื่อความสะดวกและปลอดภัยของผู้ใช้ทาง ทั้งนี้ ผู้ใช้เส้นทางและประชาชนทั่วไปสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุต่างๆระหว่างดำเนินการได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)