เปิด “ตลาดไทยเด็ด” ในปั๊ม ปตท.ช่วยเกษตรกรในพื้นที่ขยายตลาด

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือ ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก SME Bank ธกส. และสมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมัน PTT Station นำผลิตภัณฑ์ชุมชนเข้าจำหน่ายภายในร้านขายของฝากสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ทั่วประเทศ ภายใต้โครงการ “ตลาดไทยเด็ด”

พร้อมเปิดตลาดสินค้าเกษตร – เกษตรอินทรีย์ ทุกวันศุกร์ – อาทิตย์ ช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ขยายตลาด-กระจายสินค้า พบปะผู้บริโภคโดยตรง มั่นใจ!! ช่วยเพิ่มช่องทางการตลาด/กระจายสินค้า สร้างความเข้มแข็งและเพิ่มรายได้ให้คนในท้องถิ่น กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้แข็งแกร่ง

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ได้มอบนโยบายให้กระทรวงพาณิชย์เร่งสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศ เน้นเชื่อมโยงการท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรองเข้าด้วยกัน โดยให้มีการคัดสรรสินค้าและบริการที่โดดเด่นของภูมิภาคและกลุ่มจังหวัดมาจำหน่ายในสถานที่ที่ประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้าได้สะดวก และให้คำนึงถึงความหลากหลายของแหล่งกระจายสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม

กรมฯ ได้ร่วมมือกับ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (PTTOR) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME D Bank) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และสมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมัน PTT Station จัดหาสถานที่ตามเส้นทางท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ประชาชนสัญจรเชื่อมผ่านไปยังแหล่งท่องเที่ยวและจังหวัดต่างๆ เพื่อเป็นจุดจำหน่ายสินค้าเด่นของชุมชน เบื้องต้น ได้มีการจัดพื้นที่มุมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนภายในร้านขายของฝากของผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ภายใต้โครงการ “ตลาดไทยเด็ด” โดยได้ทำการเปิดโครงการฯ แห่งแรก ณ สถานีบริการน้ำมัน PTT Station หจก.สยามด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เมื่อเดือน พ.ย.61 ที่ผ่านมา

มาถึงวันนี้ กรมฯ และหน่วยงานพันธมิตรยังคงเดินหน้าขยายโครงการ “ตลาดไทยเด็ด” อย่างต่อเนื่อง โดยนำผลิตภัณฑ์ชุมชนของผู้ผลิตที่มีแหล่งผลิตสินค้าบริเวณใกล้เคียงสถานีบริการน้ำมัน PTT Station และสินค้าเด่นจากภูมิภาคต่างๆ เข้าจำหน่าย ณ จุดจำหน่ายสินค้าภายในร้านขายของฝาก เพื่อให้ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการในสถานีบริการฯ ได้เลือกซื้อนำกลับไปอุปโภคบริโภคหรือนำไปเป็นของฝากของกำนัล รวมถึงได้ขยายประเภทของสินค้าให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ตรงต่อความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด


นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

ขณะเดียวกัน ได้มีการเปิดตลาดสินค้าเกษตร – เกษตรอินทรีย์ ทุกวันศุกร์ – อาทิตย์ ณ สถานีบริการน้ำมัน PTT Station เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ในการขยายตลาด/กระจายสินค้า และพบปะผู้บริโภค ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการซื้อขายกันได้โดยตรง และมีโอกาสพัฒนาไปสู่การค้าขายกันในอนาคต ซึ่งเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรอีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ กรมฯ และหน่วยงานพันธมิตรดังกล่าวข้างต้น ได้ร่วมกันจัดงาน “ไทยเด็ด แมชชิ่งเดย์” (THAI DET Matching Day) ครั้งที่ 2 ขึ้น ณ สถานีบริการน้ำมัน PTT Station หจก.โค้งวิไลไทยเสรี อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมัน PTT Station จำนวน 37 แห่ง ได้เจรจาจับคู่ธุรกิจกับผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชน จำนวน 35 ราย เพื่อคัดสรรสินค้าเข้าจำหน่าย ณ จุดจำหน่ายสินค้า

อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้สนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชนขยายช่องทางการตลาดทั้งในรูปแบบออฟไลน์/ออนไลน์ และได้จัดหาช่องทางการจัดจำหน่ายให้มีความหลากหลาย อาทิ เชื่อมโยงการจำหน่ายสู่ร้านค้าชุมชน แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ห้างสรรพสินค้า สนามบิน ฯลฯ ทำให้เกิดการกระจายสินค้า สร้างงาน สร้างโอกาส สร้างรายได้ และเกิดประโยชน์กับผู้ประกอบการฐานรากของประเทศ

กรมฯ ได้คัดสรรผลิตภัณฑ์ชุมชนคุณภาพดีจากกลุ่มผู้ประกอบการ OTOP  Select และจากเครือข่ายธุรกิจ “MOC Biz Club” ที่กรมฯ จัดตั้งขึ้นทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นศูนย์รวมเครือข่ายผู้ประกอบการฐานรากตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เกิดพันธมิตรทางการค้าที่เกื้อกูลกัน เกิดการเชื่อมโยงการค้าที่สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละพื้นที่เพื่อเข้าร่วมเจรจาธุรกิจ ทำให้เกิดประโยชน์กับผู้ประกอบการฐานรากอย่างแท้จริง 

เป็นการยกระดับและพัฒนาสินค้าวิสาหกิจชุมชน หรือเอสเอ็มอีรายย่อยให้มีความเข้มแข็ง สินค้าได้รับการพัฒนาให้มีมาตรฐานเดียวกัน สามารถขยายตลาดและมีแหล่งกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศ เศรษฐกิจฐานรากของประเทศมีความแข็งแกร่ง ซึ่งจะส่งผลถึงระบบเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศที่จะมีความมั่นคง และยั่งยืน มากขึ้น        

ปัจจุบัน มีสถานีบริการน้ำมัน PTT Station เข้าร่วมโครงการ “ตลาดไทยเด็ด” แล้ว จำนวน 74 แห่ง ประกอบด้วย ภาคเหนือ 51 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 แห่ง ภาคตะวันออก 6 แห่ง ภาคใต้ 1 แห่ง และภาคกลาง 1 แห่ง ทั้งนี้ คาดว่าภายในปี 2562 นี้ จะสามารถขยายโครงการ “ตลาดไทยเด็ด” ได้ครบ 100 แห่ง ทั่วประเทศ