‘คมนาคม’ ผุดสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 7 รองรับไฮสปีดเทรน-ทางคู่-รถยนต์ จ่อชง ครม. ของบกลางให้ ทล.ศึกษา-ออกแบบ วงเงิน 140 ล้าน
“คมนาคม” จ่อชง ครม. ของบกลาง 140 ล้าน ภายในเดือนนี้ มอบ ทล. ศึกษาออกแบบสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 7 “หนองคาย–เวียงจันทน์ 2” ระยะทาง 16 กม. วางเส้นทางไฮสปีดเทรน–ทางคู่–รถยนต์ รองรับขนส่งสินค้าไทย–ลาว–จีน คาดแล้วเสร็จทันไฮสปีดเฟส 2 ในปี 71
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) แก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ตามความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย–จีน เส้นทาง กรุงเทพฯ–หนองคาย ระยะ (เฟส) ที่ 1 กรุงเทพฯ–นครราชสีมา 253 กิโลเมตร(กม.) เพื่อให้แล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้นำบทเรียนจากเฟสที่ 1 โดยเฉพาะปัญหาการออกแบบมาใช้กับการก่อสร้างเฟสที่ 2 ช่วงนครราชสีมา–หนองคาย ระยะทาง 356 กม. ด้วย ซึ่งทราบว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) กลางปี 2565 และเปิดประกวดราคา (ประมูล) ภายในปีนี้
นอกจากนี้ ได้ให้เริ่มดำเนินการในส่วนของการก่อสร้างรถไฟไฮสปีด เฟสที่ 3 ช่วงหนองคาย–เวียงจันทน์ ระยะทาง 16 กม. เพื่อเชื่อมการขนส่งสินค้าระหว่างไทย–สปป.ลาว–จีนในอนาคตด้วย ซึ่งจากการหารือร่วมระหว่างไทย–สปป.ลาว–จีน ได้ข้อยุติเบื้องต้นว่า
ไทยจะเป็นผู้ดำเนินการศึกษาสำรวจออกแบบการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 7 หรือสะพานมิตรภาพไทย–ลาว (หนองคาย–เวียงจันทน์ แห่งที่ 2) วงเงินประมาณ 140 ล้านบาท โดยจะขอใช้งบกลาง และให้กรมทางหลวง (ทล.) เป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจาก ทล. มีประสบการณ์การก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย–สปป.ลาวมาแล้ว 6 แห่ง
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า สำหรับสะพานแห่งนี้เดิมจะรองรับแต่รถไฟเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อพิจารณาแล้วเมื่อสร้างสะพานแล้วก็ควรให้สามารถรองรับได้ทั้งหมด ทั้งรถยนต์, รถไฟไฮสปีด และรถไฟทางคู่ แบบไม่ต้องรอหลีกทาง โดยวงเงินก่อสร้างสะพานแห่งดังกล่าว พร้อมโครงข่ายทางถนนสั้นๆ เบื้องต้นประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งตามปกติการก่อสร้างจะลงทุนคนละครึ่งระหว่างไทย–สปป.ลาว
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วม (JC) ว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย–ลาว เร็วๆ นี้ จะเจรจาเพื่อให้สปป.ลาว สร้างโครงข่ายทางถนน มารองรับการเชื่อมต่อกับสะพานแห่งนี้ด้วย โดยสะพานแห่งนี้ ต้องแล้วเสร็จก่อนรถไฟไฮสปีดเฟส 2 ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการปี 2571
ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดี ทล. กล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้า ทล. จะเสนอเรื่องขอใช้งบกลาง วงเงิน 140 ล้านบาทในการศึกษาสำรวจออกแบบก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 7 มายังกระทรวงคมนาคม และคาดว่าน่าจะเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาได้ประมาณปลายเดือน ก.พ.นี้
ทั้งนี้ จะใช้เวลาในการศึกษาสำรวจออกแบบประมาณ 1 ปี แล้วเสร็จประมาณปี 2566 โดยในระหว่างการศึกษาจะเชิญทาง สปป. ลาว และจีนเข้าร่วมด้วย สำหรับสะพานแห่งใหม่ จะตั้งขนาน และอยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพไทย–ลาวแห่งที่ 1 (หนองคาย–เวียงจันทน์) ประมาณ 50 เมตร
สำหรับการศึกษาฯ ในครั้งนี้ นอกจากจะศึกษารูปแบบการก่อสร้างสะพาน ที่จะมีทั้งรางรถไฟไฮสปีดขนาด 1.435 เมตร รถไฟทางคู่ ขนาด 1 เมตร และถนนแล้ว ยังต้องศึกษาระบบอาณัติสัญญาณต่างๆ ระบบเก็บค่าผ่านแดน ระบบความปลอดภัย และโครงข่ายถนนปลายสะพานฝั่งไทยด้วยว่า จะมีโครงข่ายเชื่อมโยงเส้นหลักใดบ้าง
ขณะที่ ฝั่ง สปป.ลาว ก็ต้องมีถนนรองรับด้วย โดยขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าปลายทางจะสิ้นสุดที่บริเวณใด ทั้งนี้ ต้องรอดูผลศึกษาก่อน โดยในปัจจุบันด่านหนองคาย และสะพานมิตรภาพไทย–สปป.ลาว แห่งที่ 1 เป็นจุดที่มีรถใช้บริการมากที่สุด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า เมื่อเปิดประเทศ และสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง จะทำให้มีทั้งรถไฟ และรถยนต์วิ่งผ่านสะพานแห่งนี้เป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน