จุดพลุ! ทล.จรดปากกาสร้าง ‘มอเตอร์เวย์’ ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว จ่อขยายต่อถึง ‘ปากท่อ’ ปชช. เดินทางฉิว @พระราม 2 ขนาด 20 เลน

ทล. ลงนามสัญญามอเตอร์เวย์ M 82 “เอกชัยบ้านแพ้วระยะทาง 16.4 กม. มูลค่า 1.87 หมื่นล้าน เริ่มก่อสร้างทันทีคาดเปิดให้บริการเต็มรูปแบบปี 68 พร้อมเตรียมขยายเพิ่มช่วงบ้านแพ้วปากท่อ 47 กม. มูลค่า 5 หมื่นล้าน จ่อชงครม. ไฟเขียวปี 70 สร้างเสร็จปี 73 แก้รถติดพระราม 2 เติมเต็มโครงข่ายวิ่งฉิว 20 เลน กว่า 90 กม. เชื่อมเดินทางกรุงเทพฯปริมณฑล ลงสู่ภาคใต้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานและสักขีพยานพิธีลงนามสัญญาและลงนามข้อตกลงคุณธรรมโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 (M82) สายทางยกระดับบางขุนเทียนบ้านแพ้ว ช่วงเอกชัยบ้านแพ้ว ตอน 1-10 ระยะทาง 16.4 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 1.87 หมื่นล้านบาท (กรอบวงเงิน 19,700 ล้านบาท) ว่า ในวันนี้ (2 .. 2565) ทล. ได้ลงนามสัญญามอเตอร์เวย์ M82 กับเอกชนคู่สัญญา จำนวน 10 ตอน และเริ่มออกหนังสือให้เริ่มงาน (NTP) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้เงินทุนค่าธรรมเนียมผ่านทาง (กองทุนมอเตอร์เวย์) มาดำเนินการในส่วนของงานโยธาฯ

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว จะเชื่อมต่อกับโครงการระยะที่ 1 ช่วงบางขุนเทียนเอกชัย ระยะทาง 8 กม. บริเวณ กม. 20+295 ที่ในขณะนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการ มีความคืบหน้า 57% และสิ้นสุดบริเวณ กม.36+645 ใน .บ้านแพ้ว.สมุทรสาคร และสิ้นสุดบริเวณ กม.36+645 ใน .บ้านแพ้ว .สมุทรสาคร

อีกทั้ง ยังเชื่อมต่อเข้ากับโครงข่ายทางพิเศษ สายพระราม 3-ดาวคะนองวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก ระยะทาง 18.7 กม. ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ด้วย โดยมีรูปแบบโครงการเป็นทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ขนาด 6 ช่องจราจรไปกลับตลอดเส้นทาง

นอกจากนี้ ทล. ยังมีแผนดำเนินการโครงการมอเตอร์เวย์ หมายเลข 82 ช่วงบ้านแพ้วปากท่อ ระยะทาง 47.4 กม. สิ้นสุดที่แยกวังมะนาว .ปากท่อ .ราชบุรี โดยคาดว่า จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในปี 2570 และจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการในปี 2573 อีกทั้งในอนาคตจะเชื่อมต่อกับโครงการทางหลวงแนวใหม่เชื่อมต่อสามแยกวังมะนาวบรรจบทางหลวงหมายเลข 3510 รวมงานปรับปรุงโครงข่ายทางหลวงเดิม

จุดเริ่มต้นที่ กม.0+000 บริเวณสามแยกวังมะนาว ช่วงทางแยกต่างระดับที่บรรจบกันระหว่างทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) และถนนพระราม 2 พื้นที่ .ปากท่อ .ราชบุรี และสิ้นสุดที่ กม. 36+718 บนทางหลวงหมายเลข3510 บริเวณสี่แยกเข้า .หนองหญ้าปล้อง .เพชรบุรี ระยะทางรวม 36.80 กม.

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) รวมทั้งการเก็บค่าผ่านทางแบบไร้ไม้กั้นโดยเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) ด้วยระบบ M-Flow 100% โดยในขณะนี้ ทล. อยู่ระหว่างเตรียมเสนอรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ให้กระทรวงฯ พิจารณา เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถประมูล PPP ได้ภายในปี 2565 และดำเนินการติดตั้งระบบในปี 2566-ปลายปี 2567 จากนั้นจึงเปิดให้ประชาชนวิ่งฟรีทดสอบระบบและเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ภายในปี 2568

ทั้งนี้ เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยเติมเต็มโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เสริมศักยภาพระบบการขนส่งทางถนนพื้นที่กรุงเทพฯ เชื่อมต่อภาคใต้ให้มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านโลจิสติกส์ของประเทศให้ก้าวต่อไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

ขณะเดียวกัน ที่สำคัญจะมีส่วนช่วยแบ่งเบาการจราจรบนถนนพระราม 2 โดยเมื่อรวมการขยายเส้นทางถนนพระราม 2 ด้านล่างขนาด 14 ช่องจราจรไปกลับ ประกอบกับทางยกระดับ 6 ช่องจราจรไปกลับ จะทำให้ประชาชนสามารถเดินทางสัญจรได้รวม 20 ช่องจราจรไปกลับ ตลอดแนวเส้นทาง รวมระยะทางรวม 90.8 กม.

ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดี ทล. กล่าวว่า โครงการดังกล่าว เริ่มสัญญาวันที่ 1 .. 2565 และสิ้นสุดสัญญาวันที่15 .. 2568 ใช้เวลาก่อสร้าง 1,080 วัน ส่วนการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) วงงินประมาณ 12,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างเตรียมการเสนอขออนุมัติรูปแบบร่วมลงทุนจากกระทรวงคมนาคม และ ครม. คาดว่าจะเสนอได้ภายใน มี.. 2565 จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในปี 2565 ก่อนจะวางแผนติดตั้งงานระบบในปี 2566-2568 คาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2568

นอกจากนี้ ทล. มีแผนจะดำเนินการ M82 ช่วงบ้านแพ้วปากท่อ ระยะทาง 47 กม. วงเงินประมาณ ไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท ในปีนี้เตรียมของบประมาณในการศึกษาสำรวจ และออกแบบโครงการ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ รูปแบบคาดว่าจะมีขนาด 6 ช่องจราจร ไปกลับ รวมทั้งงบประมาณ พื้นที่การเวนคืน และการศึกษาการจัดทำรายงานผลกระทบและสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) แล้วเสร็จจะเสนอขออนุมัติ ครม. ในปี 2570 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี หรือแล้วเสร็จในปี2573

โดยเมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จจะทำให้การเดินทางเชื่อมจากกรุงเทพฯ ไปภาคกลงตอนล่าง เพื่อสู่ภาคใต้ พร้อมทั้งจะช่วยเติมเต็มแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ระยะ 20 ปี เสริมศักยภาพระบบการขนส่งทางถนนจากในพื้นที่กรุงเทพฯ เชื่อมต่อพื้นที่ภาคใต้ ให้มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เชื่อมโยงครอบคลุม และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้านโลจิสติกส์ของประเทศ ตลอดจนแบ่งเบาการจราจรบนถนนพระราม 2