ทล. เร่งติดตั้งไฟส่องสว่างเส้นทางหลัก ทล.33 แนวใหม่ จ่อชงของบปี 66 วงเงิน 650 ล้าน ขยาย 4 เลนวิ่งฉิวตลอดเส้นทาง

ทางหลวงเผยศักดิ์สยามสั่งด่วนลงพื้นที่แก้ปัญหาปมชาวตำบลปากพลี .นครนายก ร้องขอสัญญาณไฟจราจรทล. 33 แนวใหม่สี่แยกบ้านโคกกระโดนหลังพบเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เร่งแขวง ทล.นครนายกแก้ให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้ พร้อมเล็งขอตั้งงบปี 66 วงเงิน 650 ล้าน ขยาย 4 เลนตลอดเส้นทาง

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ตามที่มีการเสนอข่าวในสื่อออนไลน์ เมื่อวานนี้ (8  .. 2565) กรณีมีชาวบ้านพื้นที่ .ปากพลี .ปากพลี .นครนายก ประมาณ 200 คน รวมตัวปิดเส้นทางจราจรบนทางหลวงหมายเลข 33 ตอน ปากพลีประจันตคราม บริเวณสี่แยกบ้านโคกกระโดน ประท้วงแขวงทางหลวง หลังก่อสร้างถนนเสร็จเกือบปี ไม่มีสัญญาณไฟแดง เกิดอุบัติเหตุล้มตายบ่อยนั้น

ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการด่วนให้ ทล. ส่งทีมวิศวกรจากส่วนกลางลงพื้นที่ตรวจสอบทันที เพื่อรับข้อเสนอจากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน โดยได้เน้นย้ำให้ ทล.แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน และหาแนวทางแก้ไขระยะต่อไปอย่างยั่งยืน โดยให้สำรวจตรวจสอบทุกเส้นทางหลวงทั่วประเทศ ที่เป็นปัญหาเช่นกรณีนี้

นายสราวุธ กล่าวอีกว่า ล่าสุดในช่วงเย็นเมื่อวันที่ 8 .. 2565 ที่ผ่านมา ทีมวิศวกรของสำนักอำนวยความปลอดภัยจากส่วนกลาง ทล. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ร่วมกับแขวงทางหลวงนครนายก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่โดย ทล. ขอเรียนชี้แจง สรุปผลการตรวจสอบ ดังนี้

  • พื้นที่ทางแยกดังกล่าว อยู่บนทางหลวงหมายเลข 33 (แนวใหม่) ตอน แยกปากพลีประจันตคาม ที่ กม. 143+100 .ปากพลี .นครนายก โครงการก่อสร้างได้ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อ มิ.. 2564 และส่งมอบให้แขวงทางหลวงนครนายกรับผิดชอบดูแลต่อไป
  • ลักษณะทางกายภาพตลอดทั้งเส้นทาง ทล.33 แนวใหม่ เป็นทางหลวงขนาด 2-4 ช่องจราจร ระยะทาง 29 กิโลเมตร(กม.) มีไฟฟ้าแสงสว่างในบางบริเวณ (ไม่ได้ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างตลอดเส้นทาง)
  • มีถนนท้องถิ่นเป็นทางสายรอง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ตัดกับทางหลวงหลายจุด ซึ่งถนนท้องถิ่นบางเส้นทาง มีชุมชนหนาแน่น ทำให้เกิดการเดินทางของประชาชนค่อนข้างมาก ประกอบกับทางหลวงหมายเลข 33 ที่ตัดใหม่ ผู้ใช้เส้นทางใช้ความเร็วค่อนข้างสูง แม้ได้มีการติดตั้งป้ายเตือนทางแยกแล้ว แต่สภาพสองข้างทางเป็นพื้นที่ทุ่งโล่ง และในเวลากลางคืนค่อนข้างมืด ทำให้รถทางตรงอาจไม่ทันสังเกตเมื่อถึงทางแยกข้างหน้าจึงเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุตามที่เป็นข่าว

นายสราวุธ กล่าวต่ออีกว่า ได้สั่งการให้แขวงทางหลวงนครนายก ดำเนินการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนทันที โดยกำชับให้แล้วเสร็จภายในเดือน .. 2565 โดยติดตั้งเสาไฟฟ้าแสงสว่าง บนทางสายหลัก ทล.33 ทั้ง 2 ทิศทาง จำนวน 3-5 ต้น ต่อทิศทาง โดยให้รีบประสานขอความร่วมมือจากการไฟฟ้าภูมิภาค เรื่องการติดตั้งหม้อแปลง เพื่อเพิ่มความสว่างในบริเวณที่เข้าสู่จุดตัดทางแยก

นอกจากนี้ ติดตั้งป้ายจราจร เพิ่มเติม ทั้ง ป้ายเตือน ป้ายชะลอความเร็ว สำหรับรถทางตรงในทางหลัก และป้ายบังคับป้ายเตือน ในเส้นทางรอง เพื่อให้ระวัง เมื่อจะถึงจุดตัดทางแยกข้างหน้า รวมถึงจัดทำเครื่องหมายจราจรเพิ่มเติม และติดตั้งกรวยยางบริเวณขอบทาง เพื่อให้รถทางตรงชะลอความเร็ว รวมทั้งทำความสะอาด เส้นจราจร ให้เห็นชัดเจนและให้แขวงทางหลวงนครนายก ประสานผู้นำชุมชน ทำการประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ประชาชนในชุมชน ทราบถึงวิธีการขับขี่ที่ปลอดภัย ขณะเข้าสู่ทางร่วมทางแยก

สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะต่อไป ได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวงที่ 13 (กรุงเทพ) แขวงทางหลวงนครนายกสำนักอำนวยความปลอดภัย สำนักสำรวจออกแบบ และสำนักแผนงาน บูรณาการร่วมกัน กับทางจังหวัด หน่วยงานท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ เพื่อทำการสำรวจตลอดเส้นทางอย่างละเอียด โดยเฉพาะบริเวณทางร่วมทางแยก ให้ทำการออกแบบติดตั้งเป็นทางแยกไฟสัญญาณจราจรในจุดที่จำเป็นเหมาะสม

ขณะเดียวกัน ให้จัดทำรายละเอียดเสนอขอตั้งงบประมาณขยายถนน จาก 2 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร ช่วงที่เหลืออีกประมาณ 12 กม. ในปีงบประมาณ 2566 โดยเบื้องต้นจะใช้วงเงินประมาณ 650 ล้านบาท ซึ่งถ้าได้รับงบประมาณในการดำเนินการ จะทำให้ประชาชนที่ใช้เส้นทาง ทล.33 แนวใหม่ และเส้นทางสายรอง ได้รับความสะดวกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทล. ขอแสดงความเสียใจ และขออภัยประชาชนในพื้นที่ และผู้ใช้เส้นทาง ที่ได้รับความไม่สะดวก ไม่ปลอดภัย ทำให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัย ต้องการสอบถามข้อมูล หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586  (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)