‘ผู้ว่า รฟท.’ ตั้งโต๊ะแถลงย้ำ ‘รถไฟทุกขบวน’ ยังเดินรถเข้าหัวลำโพง ยันฟังเสียง ‘ประชาชน’ ส่วนใหญ่ พร้อมดำเนินการตาม
“นิรุฒ” ตั้งโต๊ะแถลงย้ำชัด “รถไฟทุกขบวน” เดินรถเข้า “หัวลำโพง” ตามเดิม ลุยเช็คลิสต์ 4 ด้าน จัดทำ Action Plan ยันรับฟังเสียงประชาชนทุกมิติส่วนใหญ่ พร้อมดำเนินการตามนั้น กางแผนพัฒนาย่านสถานีหัวลำโพง ตำหนิผู้กล่าว“เอาพื้นที่ให้เจ้าสัว” ลั่น! นำความเท็จบอกกับประชาชน วอนอย่าทำร้าย รฟท. ไปมากกว่านี้เลย
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อ ครั้งที่ 8/2564 วานนี้ (20 ธ.ค. 2564) โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ได้มีข้อสั่งการให้ รฟท. ดำเนินการจัดทำเช็คลิสต์ เพื่อตรวจสอบผลกระทบกับประชาชน โดยในระหว่างการดำเนินการดังกล่าว ให้ รฟท. ยังคงรูปแบบการเดินรถไฟทุกขบวนเข้าสู่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ทั้งขบวนรถเชิงพาณิชย์ 40 ขบวน และเชิงสังคม 40 ตามเดิม รวมถึงในอนาคตเมื่อสถานการณ์การเดินทางปกติ จะมีจำนวนขบวนรถรวม 118 ขบวนนั้น
ทั้งนี้ รฟท. จะเดินขบวนรถตามเดิม รองรับการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 จึงได้ยกเลิกคำสั่งการปิดสถานีบางเขน หลักสี่ ดอนเมือง และใช้เส้นทางระดับดินตามปกติ รวมถึงยกเลิกประกาศเดินรถเข้าสถานีกลางบางซื่อ และให้ใช้ประกาศเวลาเดินรถกำหนดเวลาเดิม โดยผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วล่วงหน้ามีต้นทาง–ปลายทางที่สถานีกลางบางซื่อหรือชุมทางบางซื่อ ให้ถือใช้ขึ้น–ลงที่สถานีหัวลำโพง และสถานีสามเสนได้ สำหรับตั๋วล่วงหน้าที่มีต้นทาง–ปลายทางที่สถานีดอนเมือง ให้ถือใช้ขึ้น–ลงที่สถานีบางเขนและสถานีหลักสี่ได้
โดยหลังจากนี้ รฟท. จะดำเนินการจัดทำเช็คลิสต์ เพื่อกำหนดแนวทางการให้บริการเปลี่ยนถ่ายไปยังสถานีกลางบางซื่อ รวมถึงการเดินรถเส้นทางสายสีแดง ช่วงรังสิต–สถานีกลางบางซื่อ ของรถเชิงพาณิชย์และรถเชิงสังคม ที่จะไม่เดินลดระดับดิน ให้มีบริการต่างๆให้ครอบคลุมทุกมิติ นอกจากนี้ จะต้องพิจารณาควบคู่กับค่าใช้จ่าย เมื่อต้องเปิดให้บริการทั้งสถานีกลางบางซื่อ ที่มีค่าใช้จ่ายประมาณ 40 ล้านบาท/เดือน และสถานีหัวลำโพง ประมาณ 10 ล้านบาท/เดือน ว่าจะบริหารจัดการอย่างไร ซึ่งคาดว่า การเช็คลิสต์ดังกล่าว จะแล้วเสร็จภายใน 30 วัน หรือภายใน ม.ค. 2565 จากนั้น รฟท.จะกำหนดเป็นแผนปฎิบัติการ (Action Plan) เพื่อให้ได้ข้อสรุปต่อไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า รฟท. จะยังคงเดินรถตามเดิม จนกว่า Action Plan จะแล้วเสร็จสมบูรณ์
ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยโจทย์ของ รฟท. จะต้องหาจุดที่เหมาะสมที่สุด และรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจริง ซึ่ง รฟท.ต้องทำการบ้านต่อ หลังจากที่ผ่านมาคิดว่าตกผลึกแล้ว แต่ในปัจจุบันบริบทสังคมเปลี่ยนไป ใครจะคิดว่าประชาชนจะเดือดร้อนขนาดนี้ จึงยังต้องเดินรถตามเดิม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่ง รฟท.จะต้องสื่อสาร และสร้างความเข้าใจให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมามีบางคนทำให้เข้าใจผิด และสื่อสารคลาดเคลื่อน ทั้งยังมีเจตนาเบี่ยงเบนด้วย ยืนยันว่า รฟท. จะต้องทำเพื่อประชาชน และให้บริการสาธารณูปโภค แต่เราถูกคาดหวังให้ทำกำไร” นายนิรุฒ กล่าว
นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า รฟท. ต้องการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในทุกช่องทาง และครอบคลุมทุกมิติ ทั้งผู้ใช้บริการรถไฟ และผู้ใช้รถใช้ถนนว่า มีความคิดเห็นอย่างไร อีกทั้งมีข้อเสนอแนะอะไรบ้าง รวมถึงกระทรวงคมนาคมและรัฐบาล ทั้งนี้ หากประชาชนส่วนใหญ่ มีความคิดเห็นอย่างไร รฟท. ก็จะดำเนินการตามนั้น บนพื้นฐานรอบด้านและรอบคอบมากที่สุด ซึ่งจะพิจารณาความเห็นของประชาชนเป็นรายบุคคล ที่มองว่า เป็นเสียงที่บริสุทธิ์ ไม่ได้มีเจตนาอื่น โดยยืนยันว่า จะดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชนสูงสุด
สำหรับการเช็คลิสต์ที่ รฟท. เตรียมดำเนินการ มี 4 เรื่อง ประกอบด้วย
- การปรับเปลี่ยนเส้นทางรถไฟทางไกลสายสีแดง ขึ้นทางยกระดับ ที่จะกระทบกับการให้บริการเดิมของสถานีบางเขน สถานีหลักสี่ และการเปลี่ยนย้ายสถานีดอนเมืองไปสถานียกระดับดอนเมือง
- การปรับการเดินรถไฟเชิงพาณิชย์มาที่สถานีกลางบางซื่อ
- การปรับการเดินรถไฟชานเมืองมาที่สถานีหัวลำโพง
- การประชาสัมพันธ์ กำหนดวันที่เริ่มให้บริการ การใช้ตั๋วโดยสารประเภทต่างๆ ซึ่งจะประชาสัมพันธ์แนวทางการดำเนินการของ รฟท. ให้ประชาชนรับทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน
นายนิรุฒ ยังกล่าวถึงแผนการพัฒนาย่านสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) โดยยืนยันว่า จะไม่มีการทุบการรื้ออย่างแน่นอนส่วนคำถามว่า จะเอาไปพัฒนาทำอะไรนั้น จะต้องดูที่บริบทว่า สถานีหัวลำโพงมีบทบาทแบบไหน ยังเป็นสถานีรถไฟที่ยังมีชีวิตใช่หรือไม่ ถ้าดูจากแผนวันนี้การเดินทางโดยรถไฟมายังสถานีหัวลำโพงยังมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และในอนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีแดง ระยะที่ 2 (Missing Link) โดยจะมีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนอีกครั้งรวมทั้งจะรอให้การศึกษาทำเช็กลิสต์ เกี่ยวกับการเดินขบวนรถเสร็จสิ้นก่อน เพื่อนำข้อมูลมาประมวลรวมกันอีกครั้ง
หัวลำโพงต้องมีการพัฒนาแน่นอน ไม่มากก็น้อย เราจะปล่อยทิ้งร้างแม้แต่บ้างส่วนคงไม่ใช่เรื่องที่เราต้องทำ สำหรับหัวลำโพงและพื้นที่อื่นๆ เป็นสิ่งที่ต้องอนุรักษ์และพัฒนาให้ยั่งยืนต่อไป ไม่ใช่ปล่อยให้ทิ้งร้าง เพราะฉะนั้นจะบอกว่าทิ้งอยู่อย่างนี้หรือ การเข้าไปพัฒนาไม่ใช่ว่าเป็นการไม่เคารพต่อสิ่งที่ก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ มองว่า การทำอะไรไม่ใช่การด้อยค่าหัวลำโพง ฝากให้คิดด้วยเรื่องนี้ มองว่าหัวลำโพงมีประวัติศาสตร์ สืบเนื่องจากการมีสถานีกลางบางซื่อ มีการคิดอยู่แล้วว่าหัวลำโพงจะทำอย่างไร มีการสำรวจแล้วว่า ควรจะมีสถานีกลางบางซื่อหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ที่ถูกปิดบังหรือเก็บไว้ในองค์กรลับ เป็นที่รับรู้อยู่แล้วโดยเฉพาะที่หน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องรับรู้ รวมทั้งรฟท.ด้วย ก่อนหน้านี้มีการว่าจ้างสถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) มาศึกษาว่า หัวลำโพงควรจะเป็นอย่างไรในปี 2554 ดังนั้น การที่มีคนที่เคยทำงานใน รฟท. ออกมานั่งค้าน หากจะบอกว่าไม่เห็นผลการศึกษาคงเป็นไปไม่ได้ พอมีประชาชนออกมามาพูดก็โหนกระแสทันที” นายนิรุฒ กล่าว
นายนิรุฒ กล่าวต่ออีกว่า รฟท.ได้มอบหมายให้บริษัท เอสอาร์ที เเอสเสท จำกัด บริษัทลูกบริหารสินทรัพย์ของการรถไฟ ดูแผนการพัฒนาพื้นที่ต่างๆ ของ รฟท. ที่มีศักยภาพ ไม่ใช่เฉพาะบริเวณสถานีหัวลำโพงเท่านั้น ซึ่งจะเตรียมแนวทางการพัฒนาให้สอดคล้องกับการพัฒนาเมืองและการเชื่อมต่อในการส่งเสริมให้พื้นที่ให้มีประโยชน์สูงสุดในรูปแบบของ TOD รองรับการขนส่งคมนาคมหลายรูปแบบต่อไป ขณะที่ การเชื่อมเส้นทางรถไฟสายสีแดง ส่วนต่อขยายมีความสำคัญ เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) สถานีศาลายา สถานีศิริราช และมี Missing Link ไปสถานีหัวลำโพงและสถานีหัวหมาก ที่อยู่ระหว่างการเตรียมงานก่อสร้างและแนวเส้นทางให้มีการก่อสร้างควบคู่เส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เพื่อก่อสร้างทั้ง 2 โครงการให้สอดคล้องกันต่อไปด้วย
ส่วนกรณีที่ระบุว่า จะเอาไปให้เจ้าสัวนั้น ไม่ทราบว่า เป็นจินตนาการของใคร แต่ถือเป็นความเท็จที่เอามาบอกกับประชาชน ทำให้ รฟท.เสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ประชาชน และประเทศก็เสียหาย อยากเรียกร้องว่า อย่าทำร้ายรถไฟไปมากกว่านี้เลย เราเดินตามสิ่งที่ควรเป็น เดินตามกติกาปกติ อย่าจินตนาการ ผู้บริหารรถไฟ ผู้บริหารรัฐบาล มีวัตถุประสงค์แบบนี้ อย่าพูดแบบดักคอกัน ซึ่ง รฟท.จะดูบริบทว่า การที่มีการพูดกันแบบนั้น เป็นความเท็จอย่างไร และเข้าข่ายประเด็นทางกฎหมายอย่างไร จะพิจารณาก่อน แต่ยืนยันว่า จะไม่ให้ใครมาทำร้าย รฟท.” นายนิรุฒ กล่าว
