กพท. ออกประกาศแนวปฏิบัติให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศ เปิดบินไม่จำกัดเวลา 4 จังหวัดนำร่อง รับเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้ พร้อมเข้มมาตรการสกัดโควิด-19

กพท. คลอดประกาศแนวปฏิบัติสนามบินสายการบินให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศ บินไม่จำกัดเวลา 4 จังหวัดนำร่องตามมติ ศบค. ดีเดย์! รับเปิดประเทศ 1 ..นี้ คุมเข้มมาตรการสาธารณสุขตั้งแต่ลงเครื่อง-Shuttle Bus พร้อมเก็บข้อมูลผู้โดยสาร 30 วัน เพื่อติดต่อกรณีเป็นผู้เสี่ยงสูง กำหนดให้เจ้าหน้าที่ด่านหน้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุกสัปดาห์

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ (29 .. 2564) นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ลงนามในประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศในเส้นทางการบินภายในประเทศ ในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ฉบับที่ 9 โดยให้ผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ให้บริการผู้โดยสารในห้วงเวลานี้ ปฏิบัติตามประกาศฯ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 .. 2564 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะสิ้นสุดไปหรือมีประกาศอื่นใดเพิ่มเติม

แฟ้มภาพ

โดยกำหนดให้เขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) จากการจำแนกพื้นที่สถานการณ์ตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) หรือ ศบค. ซึ่งได้รับการยกเว้นตามบัญชีรายชื่อพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว จำนวน 4 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา และภูเก็ต โดยผู้ดำเนินการเดินอากาศสามารถปฏิบัติการบินได้โดยไม่จำกัดช่วงเวลา ซึ่งสอดคล้องกับการบริการขนส่งสาธารณะประเภทอื่นที่ดำเนินตามข้อกำหนดและข้อปฏิบัติเดียวกัน

ทั้งนี้ ให้มีจำนวนผู้โดยสารได้ตามความจุของอากาศยานที่ใช้ในการทำการบินเที่ยวบินนั้นๆ และให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศพิจารณาการจัดที่นั่งในห้องโดยสารอย่างเหมาะสม โดยให้เป็นไปตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด อันจะมีส่วนช่วยในการป้องกันควบคุมโรค อีกทั้งให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศทำการประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารทราบถึงมาตรการเข้า/ออกของจังหวัดปลายทาง รวมถึงการแจ้งความจำเป็นในการเดินทางผ่านเว็บไซต์ https://covid-19.in.th/ ก่อนการเดินทาง

ขณะเดียวกัน ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศตรวจสอบเอกสารสำคัญของผู้โดยสารตามมาตรการป้องกันโรคของจังหวัดปลายทางอย่างเคร่งครัด ในกรณีการเดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยว (Sandbox) ไปยังพื้นที่จังหวัดอื่นภายในราชอาณาจักร หากตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นผู้โดยสารที่เข้ามาในราชอาณาจักรภายใต้โครงการพื้นที่จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยว ให้ตรวจสอบหลักฐานการพำนักอยู่ในพื้นที่จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยว

โดยให้เป็นไปตามมาตรการก่อนเดินทางออกจากราชอาณาจักรหรือเดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยวไปยังพื้นที่จังหวัดอื่นภายในราชอาณาจักรหากเอกสารไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน ผู้โดยสารอาจถูกปฏิเสธการเดินทางได้โดยเงื่อนไขการเดินทางเข้าและออก และมาตรการควบคุมโรคของแต่ละจังหวัด สามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) ที่https://www.moicovid.com/

นอกจากนี้ ในระหว่างการปฏิบัติการบินให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศติดตามดูแลมิให้ผู้โดยสารรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม ยกเว้นในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินหรือจำเป็น ลูกเรืออาจพิจารณาจัดน้ำดื่มให้บริการแก่ผู้โดยสารได้ ทั้งนี้ ให้กระทำในพื้นที่ที่ห่างจากผู้โดยสารคนอื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ และให้ผู้ดำเนินการสนามบินจัดระบบการไหลเวียนของผู้โดยสาร (Passenger Flow) และการรับกระเป๋า รวมถึงอำนวยความสะดวกต่อหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อให้สามารถทำงานได้ตามมาตรการของจังหวัดปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อีกทั้ง ให้ผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศจัดให้บุคลากรด่านหน้าที่ให้บริการผู้โดยสารได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และควรให้มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุกสัปดาห์ ตามมาตรการความปลอดภัยสำหรับองค์กร(Covid Free Setting) รวมถึงก่อนเข้าพื้นที่ท่าอากาศยาน ให้ผู้ดำเนินการสนามบินทำการตรวจคัดกรองบุคคลที่เข้ามาใช้บริการในท่าอากาศยานอย่างเข้มงวด โดยต้องมีการตรวจสอบการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า

ขณะเดียวกัน การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย (Body Temperature Screening) ด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดที่ไม่ต้องสัมผัสกับร่างกายของผู้ถูกตรวจวัด (Non-contact Infrared Thermometer) หากบุคคลนั้น ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หรือวัดอุณหภูมิได้สูงกว่า 37.3 องศาเซลเชียส หรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบให้ปฏิเสธการให้เข้าพื้นที่ท่าอากาศยานโดยเด็ดขาด

นอกจากนี้ ให้ผู้ดำเนินการสนามบินควบคุมการดำเนินการตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เช่นมาตรการรักษาระยะห่าง การจัดให้มีแลกอฮอล์สำรับล้างมือไว้ให้บริการอย่างเพียงพอ ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคพื้นที่และอุปกรณ์ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณห้องน้ำ และให้ผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หากไม่ปฏิบัติตาม ผู้ดำเนินการสนามบินสามารถให้ผู้ใช้บริการออกจากพื้นที่สนามบินได้

ทั้งนี้ ให้ผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศที่จัดรถลำเลียงผู้โดยสารไปกลับระหว่างอาคารผู้โดยสารและอากาศยาน (Shuttle bus) สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ตามความจุมาตรฐานของยานพาหนะนั้นๆ โดยถือหลักหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน ให้ทำความสะอาดพื้นผิว และอุปกรณ์ที่มีการสัมผัสบ่อยๆ ทั้งก่อนและหลังการให้บริการ รวมถึงให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศเก็บข้อมูลผู้โดยสารไว้อย่างน้อย 30 วันเพื่อให้สามารถบ่งชี้ถึงผู้โดยสารที่อาจเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง รวมถึงข้อมูลเพื่อใช้ในการติดต่อ และให้นำส่งข้อมูลเมื่อได้รับการร้องขอจากหน่วยงานสาธารณสุข

นอกจากนั้น ให้ผู้ดำเนินการสนามบินติดตามดูแลให้ผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ ในเขตพื้นที่ทำอากาศยานปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. โดยเคร่งครัด ในกรณีที่มีการยกเลิกเที่ยวบินและการรวมเที่ยวบิน ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศแจ้งและดูแลผู้โดยสารอย่างเหมาะสม ตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง การคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทยในส้นทางบินประจำภายในประเทศ .. 2553 อีกทั้งให้ผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศแจ้งเตือนผู้โดยสารกรณีเป็นผู้ป่วยยืนยันหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้งดการเดินทาง หากฝ่าฝืนอาจได้รับโทษตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ .. 2558

โดยให้ผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศเพิ่มความเข้มงวดในการติดตามดูแลให้ประชาชนผู้มาใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการในระเบียบสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยว่าด้วยแนวปฏิบัติในการให้บริการผู้โดยสารสำหรับเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ..  2564 ประกาศ วันที่ 9 เม.. 2564