กทพ. เดินหน้า M-Flow เร่งติดตั้งอุปกรณ์–พัฒนาซอฟต์แวร์ ประเดิมใช้ทางด่วนฉลองรัช 3 ด่าน คาดเปิดทดสอบระบบเสมือนจริง มี.ค. 65 เปิดให้บริการจริง เม.ย. 65
รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ระบุว่า กทพ. ได้ดำเนินการระบบเก็บค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (Multi-Lane Free Flow หรือ M-Flow) โดยร่วมกับกรมทางหลวง (ทล.) ในการบูรณาการให้เป็นไปในรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน (Single Platform System) โดยในส่วนของ กทพ. ระยะที่ 1 จะดำเนินการที่ทางพิเศษฉลองรัช 3 ด่าน คือ ด่านจตุโชติ ด่านสุขาภิบาล 5-1 และด่านสุขาภิบาล 5-2
ทั้งนี้ ความก้าวหน้าในส่วนของ กทพ.ได้ลงนามในสัญญาจ้างงานติดตั้งอุปกรณ์ของระบบ M-Flow และพัฒนาซอฟต์แวร์และการเชื่อมต่อระบบ M-Flow กับ Single Platform System ของ ทล. ระยะที่ 1 เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2564 โดยมีระยะเวลาดำเนินงาน 120 วัน ซึ่งมีความก้าวหน้าในการดำเนินงานที่ 13.18% (ข้อมูล ณ วันที่ 8 ต.ค. 2564)
นอกจากนี้ ได้ลงนามในสัญญาจ้าง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นที่ปรึกษาบริหารโครงการ (Project Management Consultant: PMC) งานระบบเก็บค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้นให้เป็นรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2564 เพื่อให้สามารถดำเนินการระบบ M-Flow ได้อย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ
โดยที่ปรึกษาฯ จะศึกษาในรายละเอียดเพื่อประเมินความเหมาะสมและปรับปรุงการออกแบบทั้งในส่วนงานซอฟแวร์ฮาร์ดแวร์ และกระบวนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องสำหรับการดำเนินงาน อีกทั้ง ยังเตรียมการในด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเตรียมการในเรื่องการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์การเปิดให้บริการ M-Flow บนทางพิเศษ โดยจะเปิดทดสอบระบบเสมือนจริง (Soft Opening) ใน มี.ค. 2565 และเปิดให้บริการในช่วง เม.ย. 2565
ทั้งนี้ ระบบ M-Flow เป็นทางเลือกใหม่ของการชำระค่าผ่านทางพิเศษที่สะดวกรวดเร็วไม่ต้องหยุดหรือชะลอรถ โดยใช้เทคโนโลยี Video Tolling ซึ่งเป็นระบบกล้องตรวจจับป้ายทะเบียนอัตโนมัติ (Automated License Plate Recognition) ด้วยเทคโนโลยี AI ร่วมกับระบบการตรวจจับยานพาหนะอัตโนมัติ (AVI) เพื่อใช้ตรวจสอบยานพาหนะและระบุตัวตนผู้ใช้ทาง
สำหรับการใช้งานระบบ M-Flow ผู้ใช้บริการจะต้องลงทะเบียนรถยนต์ก่อนเริ่มใช้งานที่ www.mflowthai.com และApp : m-flow และสามารถใช้บริการช่องทางที่มีสัญลักษณ์ M-Flow ที่ไม่มีไม้กั้น โดยระบบ M-flow สามารถรองรับการใช้ความเร็วได้สุงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้สามารถระบายรถได้เร็วกว่าระบบเดิม รองรับการใช้งานของรถทุกประเภทและมีระบบแจ้งเตือนการใช้งาน
ในส่วนช่องทางการชำระเงิน ผู้ใช้บริการสามารถชำระเงินค่าผ่านทางได้หลากหลายช่องทางอย่างสะดวกสบาย ทั้งรูปแบบการชำระเงินเป็นรายครั้งที่วิ่งผ่านทาง หรือรูปแบบชำระตามรอบบิลรายเดือน รวมถึงรองรับรูปแบบการชำระเงินด้วยตนเอง และรูปแบบการชำระเงินผ่านการตัดบัตรบัญชีสำรองของบัตร Easy Pass/M-Pass แบบอัตโนมัติ