กทม. ผุดรถไฟรางเบา ‘บางนา-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ’ 19.7 กม. แก้ปัญหาจราจร ถ.บางนา-ตราด คาดศึกษาเสร็จ ม.ค. 65
กทม. ลุยศึกษารถไฟรางเบาสาย “บางนา–ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ระยะทาง 19.7 กม. เล็งดึงเอกชน PPP แบ่งสร้าง2 เฟส พร้อมเชื่อมสายสีเขียว เดินสกายวอล์คไบเทค บางนา หนุนการเดินทางเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ คาดรองรับผู้โดยสาร 1.5-3 หมื่นคน/ชม. ใช้เวลาเดินทาง 56 นาที วางไทม์ไลน์ศึกษาเสร็จ ม.ค. 65
นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาปฐมนิเทศโครงการ สัมมนา Online ผ่านโปรแกรม Zoom Cloud Meeting โครงการงานจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาและวิเคราะห์โครงการรถไฟฟ้ารางคู่ขนาดเบา (Light Rail Transit) สายบางนา–ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันนี้ (3 ก.ย. 2564) ว่า การสัมมนาในวันนี้ เพื่อแนะนำโครงการ พร้อมทั้งนำเสนอข้อมูล ทบทวนผลการศึกษา รูปแบบรายละเอียด ปัจจัยความเป็นไปได้ และสิทธิประโยชน์ที่ภาคเอกชนให้ความสนใจในการลงทุน พร้อมทั้งรับทราบความคิดเห็น และข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์เพื่อเตรียมพร้อมสู่การประชุมรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน (Market Sounding)
ทั้งนี้ ในปัจจุบันถนนบางนา–ตราด เป็นหนึ่งในทำเลศักยภาพที่มีถนนสายหลักใช้เดินทางสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและภาคตะวันออก นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมที่ค่อนข้างหนาแน่น แม้ว่าจะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เชื่อมต่อการเดินทางมายังย่านบางนา และ จ.สมุทรปราการ และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ที่เชื่อมสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แต่ในพื้นที่ถนนสายบางนา–ตราด ยังไม่มีรถไฟฟ้าให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชน
ดังนั้น ด้วยเหตุดังกล่าว กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดย สจส. จึงได้ดำเนินการว่าจ้างที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาทบทวนผลการศึกษาและดำเนินการศึกษาวิเคราะห์โครงการรถไฟรางคู่ขนาดเบา สายบางนา–ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการเตรียมความพร้อมในการเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน โดยมีขอบเขตการดำเนินโครงการ 1.จัดทำรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ 2.วิเคราะห์ความจำเป็นของโครงการ3.ดำเนินการจัดทำรายงานหลักของโครงการร่วมลงทุนเพื่อนำเสนอต่อรัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัดให้พิจารณา4.ดำเนินการจัดประชาสัมพันธ์และการทดสอบความสนใจของนักลงทุนภาคเอกชน (Market Sounding)
สำหรับโครงการรถไฟรางคู่ขนาดเบา สายบางนา–สุวรรณภูมิ เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างพื้นที่กรุงเทพฯ และจ.สมุทรปราการ มีจุดเริ่มต้นโครงการบริเวณสี่แยกบางนา จากนั้นมุ่งไปทางทิศตะวันออก ตามทางคู่ขนานถนนบางนา–ตราด ผ่านทางแยกต่างระดับบศรีเอี่ยม เข้าสู่เขต จ.สมุทรปราการ ผ่านทางแยกต่างระดับกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก ทางแยกต่างระดับกิ่งแก้ว และบริเวณด้านหน้าโครงการธนาซิตี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์ซ่อมบำรุงโครงการแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าตามแนวถนนสุวรรณภูมิ 3 และมาสิ้นสุดเส้นทางที่บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ รวมระยะทาง 19.7 กิโลเมตร (กม.) รวมทั้งหมด 14 สถานี
โดยโครงการรถไฟรางคู่ขนาดเบา สายบางนา–สุวรรณภูมิ แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 จากแยกบางนา–ธนาซิตี้ จำนวน 12 สถานี ระยะทาง 14.6 กม. และระยะที่ 2 จากธนาซิตี้–สุวรรณภูมิด้านใต้ จำนวน 2 สถานีระยะทาง 5.1 กม. และมีศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่ง บริเวณสถานีธนาซิตี้ โดยเบื้องต้น กทม. มีแนวคิดในการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP (Public Private Partnership) เฉพาะระยะที่ 1 ก่อน ส่วนรูปแบบการพัฒนาโครงการ เป็นรถไฟฟ้ารางเบา มีขนาดราง 1.435 เมตร มีระบบควบคุมการเดินรถอัตโนมัติ มีความเร็ว 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้ระยะเวลาเดินทางไป–กลับ 56 นาที คาดว่าสามารถรองรับผู้โดยสารประมาณ 15,000-30,000 คน/ชั่วโมง
ทั้งนี้ ภายหลังการสัมมนาครั้งนี้ สจส. จะรวบรวมข้อมูลความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนนำมาพิจารณาประกอบการศึกษาของโครงการ พร้อมทั้งจะดำเนินการจัดกิจกรรมการสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน(Market Sounding) และการทดสอบความสนใจของภาคเอกชน (Market Sounding Interview) ในช่วงประมาณ พ.ย.-ธ.ค. 2564 และจะจัดสัมมนาสรุปผลโครงการ จากนั้นในช่วงประมาณ ม.ค. 2565 เพื่อนำเสนอรายละเอียดผลการศึกษาข้อมูลโครงการไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่โครงการได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง โดยผู้สนใจสามารถติดตามความคืบหน้าและรายละเอียดของโครงการฯ ได้ที่เว็บไซต์ www.lrt-bangna-ppp.com