‘ทางหลวง’ เทงบ 1,100 ล้าน สร้างทางหลวงแนวใหม่ ‘สายกบินทร์บุรี’ ระยะทาง 29 กม. เปิดใช้แล้ว เชื่อมโครงข่ายทางหลวงเอเชีย AH1-ชายแดนด่านอรัญประเทศ
“ทางหลวง” เทงบ 1,100 ล้านก่อสร้างทางแนวใหม่ ขนาด 2-4 ช่องจราจร สายกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ตอน แยกหนองชะอม–อ.ประจันตคาม ระยะทาง 29 กม.แล้วเสร็จ รองรับโครงข่ายทางหลวงเอเชียหมายเลข AH1 เชื่อมการเดินทางด่านชายแดนกัมพูชา หนุนเศรษฐกิจ–การท่องเที่ยวในภูมิภาค
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า สำนักก่อสร้างทางที่ 2 ได้ก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 33 สายปราจีนบุรี–อ.กบินทร์บุรี (แนวใหม่) ตอน แยกหนองชะอม–อ.ประจันตคามแล้วเสร็จ ช่วงระหว่าง กม.146-175 อยู่ในพื้นที่อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ระยะทางยาวประมาณ 29 กิโลเมตร (กม.) แบ่งเป็น ขนาด 4 ช่องจราจร ระยะทาง 12 กม. และขนาด 2 ช่องจราจร ระยะทาง 17 กม.
ทั้งนี้ เส้นทางดังกล่าว เป็นสายปราจีนบุรี–อ.กบินทร์บุรี แนวใหม่ ลักษณะโครงการเป็นงานก่อสร้างคันทางใหม่ด้านซ้ายทางและขวาทาง ชั้นผิวทางแอสฟัลท์คอนกรีต ช่องจราจรกว้าง 3.5 เมตร ไหล่ทางด้านนอกกว้าง 2.5 เมตร รวมความกว้างด้านละ 9.5 เมตร มีเกาะกลางแบ่งช่องจราจรไป–กลับ งบประมาณ 1,100 ล้านบาท
สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 33 หรือ ถนนสุวรรณศร เป็นโครงข่ายทางหลวงสายหลักที่เชื่อมพื้นที่ภาคกลางกับพื้นที่ชายแดนด้านตะวันออกและเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายทางหลวงเอเชีย หมายเลข AH1 ซึ่งเชื่อมต่อประเทศกัมพูชาที่ด่านอรัญประเทศ โดย ทล.จึงได้ปรับปรุงทางหลวงทั้งเส้นให้เป็น 4 ช่องจราจร
โดยมีส่วนที่ยังคงเป็นทางขนาด 2 ช่องจราจร คือ ช่วงแยกหนองชะอม–อ.ประจันตคาม เนื่องจากมีข้อจำกัดเกี่ยวกับผลกระทบในด้านต่างๆ ทำให้ไม่สามารถขยายช่องจราจรเดิมได้ ก่อให้เกิดความคับคั่ง ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถและถนน โดยในอนาคต ทล.จะขยายให้เป็น 4 ช่องจราจรตลอดเส้นทางต่อไป
นอกจากนี้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจและปริมาณจราจร ดังนั้น ทล. จึงได้ก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่เส้นทางดังกล่าวขึ้น เป็นไปตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่ต้องการพัฒนาโครงข่ายสายหลักให้ได้มาตรฐานเชื่อมโยงระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว จะช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัด และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจราจรให้มีความปลอดภัย สะดวก และรวดเร็วในการคมนาคมขนส่ง ของจังหวัดปราจีนบุรี เป็นการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงสายหลักที่เชื่อมโยงระหว่างจังหวัดและภูมิภาค ช่วยส่งเสริมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวในภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือผู้ใช้ทาง “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ขับขี่ด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านและผู้ร่วมทาง ประชาชนสามารถสอบถามเส้นทางการเดินทางได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวงโทร 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)