ขยับไทม์ไลน์! ใช้รถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ‘EV on Train’ เร็วขึ้น 2 ปี เล็งสร้างโรงไฟฟ้าเอง จ่ายกระแสใช้เดินรถ

ศักดิ์สยามดันใชัรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า “EV on Train” ขยับไทม์ไลน์ใช้ในไทยเร็วขึ้น 2 ปี ลุยประเดิมปรับปรุงรถเก่าใช้ระบบ Battery Locomotiv จำนวน 4 คันใช้ภายในปี 66 เดินหน้าวิจัยใช้ลากจูงเข้าสถานีกลางบางซื่อโดยด่วน พร้อมเล็งสร้างโรงไฟฟ้าใช้เดินรถจ่ายคืนระบบไฟฟ้า

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการผลักดันการใช้เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสำหรับการขนส่งสาธารณะ กรณีรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV on Train ว่า ตนได้เร่งรัดการผลักดันการใช้เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสำหรับการขนส่งสาธารณะ กรณีรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV on Train ซึ่งมีสาระสำคัญในการปรับปรุงแผนการนำรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV on Train ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่ติดตั้งในตัวรถไฟ มาใช้ในประเทศให้เร็วขึ้นจากแผนเดิม ปี 2568 เป็นปี 2566

รถไฟในต่างประเทศ

ทั้งนี้ ในปี 2564 จะดำเนินการศึกษาและออกแบบรถไฟ EV ที่เหมาะสมกับประเทศไทย จากนั้นในปี 2565 จะเป็นการเตรียมการและดำเนินการดัดแปลงรถไฟ EV จากรถจักรเก่า และในปี 2566 ดำเนินการทดสอบรถไฟ EV ในศูนย์ทดสอบและทดลองวิ่งในเส้นทาง นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการจัดทำแผนการดำเนินงาน นำรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV on Train มาใช้ในประเทศไทย โดยมีแผนครอบคลุมตั้งแต่ปี 2564 จนถึง ปี 2576

โดยมีโครงการระยะสั้น ที่ทางกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์กรมหาชน) และสถาบันการศึกษา จะร่วมมือกันปรับปรุงรถจักรเก่า GEK หรือAlsthom เป็นระบบ Battery Locomotive จำนวน 4 คัน ให้แล้วเสร็จในปี 2566 และโครงการจัดหารถจักรสับเปลี่ยน(Battery Shunting Locomotive) จำนวน 20 คัน ที่จะนำมาใช้งานภายในปี 2567

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ตนได้มีข้อสั่งการเพิ่มเติม โดยมอบหมายให้ ขร. และ รฟท. จัดทำแผนการดำเนินการและขั้นตอนในการนำรถไฟ EV on Train มาใช้ในประเทศไทยให้มีความชัดเจนและเป็นรูปธรรม รวมทั้งจัดหาทุนในการดำเนินการ รวมถึงให้ รฟท. ร่วมกับสถาบันการศึกษาทำการศึกษาวิจัยการนำรถไฟ EV on Train มาใช้สำหรับลากจูงขบวนรถไฟที่จะเข้ามาใช้สถานีกลางบางซื่อในระยะเร่งด่วน

นอกจากนี้ ให้หน่วยงานผู้ให้บริการระบบรางที่ใช้พลังงานไฟฟ้าศึกษาความต้องการและการบริหารจัดการการใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อให้มีความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยอาจพิจารณาการจัดสร้างโรงไฟฟ้า เพื่อจ่ายพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการเดินรถ และส่วนที่เหลือสามารถนำมาจ่ายคืนไปยังระบบไฟฟ้า