‘ทางหลวง’ รับลูก ‘นายกฯ-ศักดิ์สยาม’ ลุยปรับภูมิทัศน์ 2 ข้างทาง-เกาะกลาง เนรมิตสู่ ‘ถนนสายต้นไม้&ดอกไม้’ พร้อมสั่งหน่วยงานทั่ว ปท. ลงพื้นที่สำรวจเพิ่ม

“ทางหลวง” รับลูก “นายกฯ-ศักดิ์สยาม” เดินหน้าปรับปรุงภูมิทัศน์ 2 ข้างทาง-เกาะกลางถนน สู่ “ถนนสายต้นไม้ & ดอกไม้” ด้าน “สราวุธ” อธิบดี ทล. ชี้เริ่มโฟกัสปลูกต้นไม้ตั้งแต่ปี 20 ลุยสั่งหน่วยงานลงพื้นที่สำรวจ พร้อมจัดทำ Action Plan ก่อนเตรียมปลูกเพิ่ม ผนึกหน่วยงาน “วิจัยพันธุ์ไม้” ปลูกต้นไม้ดูดซับฝุ่นละออง ช่วยแก้ PM 2.5 มอบหมวดทางหลวงทั่วไทย ปรับปรุงจุดให้บริการให้พร้อม รองรับการเดินทาง ปชช. เร่งเนรมิตความสวยงาม หลังโควิด-19 คลี่คลาย ทัน ปชช.ท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ 65 ออกนโยบายออกแบบสร้างถนนในอนาคต กำหนดเพิ่มพื้นที่สีเขียว

ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามข้อสั่งการในการดำเนินงานปรับปรุงภูมิทัศน์บนท้องถนนของกรมทางหลวง (ทล.) ที่ได้ดำเนินโครงการปลูกต้นไม้ในในหลายพื้นที่ พบว่าผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจในหลายเส้นทาง โดยขอชื่นชม และสนับสนุนให้ดำเนินงานต่อไป หลังจากได้มีการปรับปรุง ปลูกต้นไม้ที่มีสีสันสวยงาม ช่วยให้ทัศนียภาพตลอดสองข้างทางดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พร้อมทั้งได้สั่งการเพิ่มเติมให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย รวมถึงหน่วยงานรัฐ ดำเนินโครงการปลูกต้นไม้อย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์เมืองและถนนเส้นทางต่างๆ ให้มีความสวยงาม ร่มรื่น โดยเลือกปลูกต้นไม้ที่เหมาะกับแต่ละพื้นที่ เพื่อความง่ายในการดูแลรักษา ทั้งยังจะเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ด้วยนั้น

แฟ้มภาพ

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ในการประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2564 ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ อาทิ การปลูกต้นไม้ริมทางให้มีความสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีด้วยนั้น ทล.พร้อมรับข้อสั่งการมาดำเนินการทันที

นอกจากนี้ ตนยังได้สั่งการไปยังผู้บริหาร ทล. ในส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเขตทางหลวง และแขวงทางหลวงทั่วประเทศ ลงพื้นที่สำรวจถนนทางหลวงในเส้นทางต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติงาน (Action Plan) ในการปรับปรุงภูมิทัศน์ ทั้งการปลูกต้นไม้ หรือดอกไม้ เพื่อให้สองข้างถนนทางหลวงมีความสวยงาม รวมถึงยังเป็นเพิ่มพื้นที่สีเขียวมากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังให้พิจารณาต้นไม้หรือดอกไม้ประจำพื้นที่นั้นๆ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ที่น่าสนใจ และสร้างความประทับใจของผู้ที่มาเยือนด้วย

ทั้งนี้ ทล. ได้ดำเนินการปลูกต้นไม้หรือดอกไม้ในเส้นทางต่างๆ มาตั้งแต่ปี 2520 โดยในบางเส้นทางถูกขนานนามว่า “ถนนสายต้นไม้” เนื่องจากมีความสวยงาม และประทับใจต่อผู้ใช้ทาง โดยส่วนใหญ่แล้ว ทล. จะมีการปลูกต้นไม้บนเกาะกลางทางหลวงและสองข้างทางหลวง เช่น ต้นราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติไทย, ดอกเฟื่องฟ้า, ต้นพญาเสือโคร่ง, ต้นตะแบก เป็นต้น โดยหลังจากได้รับข้อสั่งการแล้วนั้น ทล. จึงได้มีนโยบาย 2 เรื่อง คือ 1.จะดำเนินการปลูกเพิ่ม ขณะที่ต้นไม้เดิมที่มีอยู่แล้วนั้น ให้มีการบำรุงรักษา ตัดแต่งกิ่งไม้ให้มีความสวยงาม

2.ปรับปรุงหมวดทางหลวง จำนวน 581 แห่งทั่วประเทศ โดยจะพิจารณาหมวดทางหลวงที่มีศักยภาพ หรืออยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวยอดฮิต ซึ่งเป็นไฮไลต์ที่สวยงาม ประมาณ 30 แห่งนั้น โดยเฉพาะทางภาคเหนือ เช่น เขาค้อ ภูทับเบิก ดอยอินทนนท์ จ.น่าน จ.แพร่ เป็นต้น โดยให้ดำเนินการปรับปรุงให้เป็นจุดบริการประชาชน อาทิ จุดพักจอดรถฟรี จุดกางเต้นท์ฟรี พร้อมทั้งมีการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้รองรับประชาชน ซึ่งหากเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว หรือวันหยุดยาว จะให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เช่น บริการน้ำดื่ม กาแฟ ห้องน้ำ สอบถามข้อมูลทางหลวง เป็นต้น

กรมทางหลวง พร้อมดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีโดยทันที รวมถึงยังสอดคล้องกับนโยบายของนายศักดิ์สยาม ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ที่มอบหมายให้ ทล. ดำเนินการสนับสนุน 3 เรื่อง คือ 1.ประชาชนจะต้องเดินทางสะดวก 2.ปลอดภัย และ 3.สวยงาม ซึ่งถึงแม้ในช่วงนี้ ยังเป็นช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ภายหลังประชาชนมีการฉีดวัคซีนมากขึ้น และจะส่งผลให้โควิด-19 คลี่คลายลง ทล.จึงได้เตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะเรื่องการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และปรับปรุงทัศนียภาพให้สวยงาม เพื่อรองรับการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว และมีความสวยงามทันช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ที่จะถึงนี้” นายสราวุธ กล่าว

นายสราวุธ กล่าวต่ออีกว่า ในปีงบประมาณ 2564 และในอนาคต ได้กำหนดนโยบายไว้ว่า โครงการก่อสร้างถนนทางหลวงเส้นทางใหม่ รวมถึงโครงการปรับปรุงหรือบำรุงรักษา และอื่นๆ ของ ทล.นั้น จะต้องศึกษาออกแบบโครงการฯ ให้ลดผลกระทบและกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งการออกแบบถนนเส้นทางต่างๆ ให้มีพื้นที่สีเขียว เพื่อให้มีความร่มรื่นตามแนวเส้นทางถนนทางหลวง อาทิ การปลูกต้นไม้พันธุ์ที่มีการวิจัยไว้แล้วว่า มีส่วนช่วยในการดูดซับฝุ่นละอองในอากาศ ทั้งการปลูกใหม่ การปลูดทดแทนต้นเดิม สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5

รายงานข่าวจาก ทล. ระบุว่า สำหรับเส้นทางที่ ทล.แนะนำให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการชมความงดงามตามธรรมชาติของดอกไม้ที่เบ่งบานสร้างสีสัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนนี้ มี 6 เส้นทางในจังหวัดต่างๆ ได้แก่ 1.ทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ตอนดอนหวาย-บ้านวัด ช่วง กม.201+000-201+300 และ กม.189+500-190+000 และตอนโคกกรวด-นครราชสีมา ช่วง กม.130-กม. 134 ระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร (กม.) จะมีดอกเหลืองปรีดียาธร เหลืองอร่ามบานสะพรั่ง 2 ข้างทางหลวงถนนมิตรภาพ อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบแขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 2, 2.ทางหลวงหมายเลข 12 ตอนบ้านฝาง-ขอนแก่น (แยกเข้าสนามบิน) ช่วง กม. 547+595

3.ทางหลวงหมายเลข 2428 ตอนทางเข้าท่าอากาศยานขอนแก่น ช่วง กม.0+000-1+741 ระยะทาง 1.7 กม. อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของแขวงทางหลวงขอนแก่นที่ 1, 4.ทางหลวงหมายเลข 33 (ตอนคลองยาง-นครนายก) ที่ กม.117+800 และที่ กม.118+000 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของแขวงทางหลวงนครนายก, 5.ทางหลวงหมายเลข 1021 (สายพะเยา-เชียงคำ) ตอน แยกทางหลวงหมายเลข 1 (แม่ต๋ำ-จุน) ตั้งแต่ กม.2+000-กม.12+000 ช่วง อ.ดอกคำใต้ มีดอกคูณเหลืองอร่ามและดอกเฟื่องฟ้าหลากสีระยะทางกว่า 10 กม. ซึ่งถนนสายดังกล่าวนับว่าเป็นถนนสายดอกไม้ ที่มีความสวยงามติด 1 ใน 9 ของถนนสวยในประเทศไทย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของแขวงทางหลวงพะเยา และ 6.ทางหลวงหมายเลข 21 (ตอนวังชมภู-บ้านโตก-หัวนา-สักหลง-กกกะทอน) จ.เพชรบูรณ์

รายงานข่าว ทล. ระบุอีกว่า ในส่วนเส้นทางท่องเที่ยวที่สวยงาม ซึ่งถือเป็นอันซีนแห่งใหม่ของ จ.น่าน คือ “โค้งเลข 3” อยู่บนทางหลวงหมายเลข 1081 สายสันติสุข-บ่อเกลือ ตอนดอนมูล-หลักลาย ช่วงกม.ที่ 38 – 39 โดยโค้งเลข 3 นี้ มีระยะทางประมาณ 300 เมตร ที่ลัดเลาะตามแนวธรรมชาติ 2 ข้างทางที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ของเส้นทางนี้ ทำให้เมื่อขับรถมาถึงบริเวณจุดดังกล่าว จะมองเห็นเส้นถนนที่โค้ง ดูคล้ายกับเลข 3 โดดเด่นขึ้นมาสวยงาม โดยในช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.50 – 07.10 น. จะมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งก่อนถึงโค้งดังกล่าว จะมีจุดจอดรถเพื่อสำหรับถ่ายภาพกับโค้งเลข 3 บนถนนสายสันติสุข-บ่อเกลือ

นอกจากนี้ ยังมี “โค้งปิ้งงู” ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.สกลนคร บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 213 สกลนคร-กาฬสินธุ์ มีแขวงทางหลวงสกลนครที่ 1 เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ ปัจจุบันเป็นถนนขนาด 2 ช่องจราจร แบ่งเป็น ขาไป 1 ช่อง และขากลับ 1 ช่อง ถนนมีลักษณะโค้งจำนวนมาก จึงเป็นที่มาที่ชาวบ้านเรียกติดปากกันมาตลอดว่า “โค้งปิ้งงู” โดยช่วงถนนที่เป็นโค้งปิ้งงู จะอยู่ก่อนถึงพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ มีระยะทางประมาณ 600-700 เมตร ขณะเดียวกัน ในอนาคตโค้งปิ้งงูจะมีไฮไลท์เด็ดให้ผู้ใช้ทาง กับ “ถนนสวยสายดอกไม้” อีกด้วย ซึ่งเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา แขวงทางหลวงสกลนครที่ 1 ได้ปลูกต้นกัลปพฤกษ์ที่มีดอกสีชมพู หรือที่คนไทยเรียกว่า “ซากุระเมืองไทย” โดยคาดว่า จะทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.สกลนคร อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กรมทางหลวงขอความร่วมมือประชาชนจอดยานพาหนะบริเวณสองข้างทางอย่างระมัดระวังระหว่างทำการถ่ายภาพเพื่อป้องกันปัญหาการจราจรติดขัดและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และปฏิบัติตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณะสุข “การท่องเที่ยววิถีใหม่” (New Normal) หากต้องการสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)

 

โค้งเลข 3
โค้งปิ้งงู ที่มาภาพ : เว็บไซต์มหัศจรรย์สกลนคร