คปภ.เห็นชอบเจ้าพระยาประกันภัยขยายเวลาแก้ปัญหาปกป้องผู้เอาประกัน

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 17/2561 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2561 นายทะเบียนด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการ คปภ. สั่งให้บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ตามมาตรา 52 โดยให้แก้ไขฐานะและการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 29 มิถุนายน 2561 ต่อมาบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้มีหนังสือที่ CPY 379/2561 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2561 เรื่อง ขอขยายระยะเวลาการแก้ไขฐานะและการดำเนินการของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพื่อขอผ่อนผันขยายระยะเวลาการแก้ไขฐานะและการดำเนินงานของบริษัทฯ ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 17/2561 เป็นระยะเวลารวม 3 เดือน หรือภายในวันที่ 28 กันยายน 2561 ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ครั้งที่ 7/2561 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ได้พิจารณาข้อเท็จจริงตามที่สำนักงาน คปภ. เสนอดังนี้

1. มีหลักฐานยืนยันว่าบริษัทได้นำเงินจำนวน 110 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคารเพื่อทำการเพิ่มทุน ซึ่งสำนักงาน คปภ. ได้มีการตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ได้มาจากผู้ถือหุ้นจริง
2. เงินจำนวน 110 ล้านบาท ที่บริษัทได้นำมาเพิ่มทุนชำระแล้วนั้น จะอยู่ในการควบคุมดูแลของสำนักงาน คปภ. ซึ่งบริษัทไม่สามารถเบิกถอนได้หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนทั้งนี้เป็นไปตามประกาศนายทะเบียน เรื่อง กำหนดการจ่ายเงินอื่นของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่นายทะเบียนมีคำสั่งให้หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2561
3. จากการวิเคราะห์สภาพคล่องของบริษัทฯ สำนักงาน คปภ. พบว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องเพียงพอต่อการจ่ายค่าใช้จ่ายในกรณีภาวะปกติไปอีกประมาณ 90 วัน นับจากปัจจุบัน และมีสภาพคล่องเพียงพอต่อการจ่ายค่าใช้จ่ายสำหรับกรณีที่มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนรายใหญ่และ/หรือรายการที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยต่อไปอีก ประมาณ 60 วัน

ทั้งนี้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 นายทะเบียนโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยครั้งที่ 7/2561 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2561 พิจารณาแล้วเห็นว่าบริษัทมีความคืบหน้าในการแก้ไขฐานะและการดำเนินการโดยได้เพิ่มทุนมาแล้วบางส่วน และอยู่ระหว่างแก้ไขฐานะด้วยการแปลงหนี้เป็นทุน จึงมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาการแก้ไขฐานะและการดำเนินการของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ออกไป จนถึงวันที่ 28 สิงหาคม 2561 โดยบริษัทจะต้องแก้ไขฐานะและการดำเนินการตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 17/2561 เรื่อง ให้บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ขยาย และบริษัทยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว หากปรากฏหลักฐานต่อนายทะเบียนว่า เจ้าหนี้ของบริษัทได้ตกลงหรือยินยอมเข้าร่วมโครงการแปลงหนี้เป็นทุนกับบริษัทตามคำร้องขอขยายระยะเวลา ภายในวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ให้ขยายระยะเวลาแก้ไขฐานะและการดำเนินการออกไปจนถึงวันที่ 27 กันยายน 2561 และบริษัทยังอยู่ภายใต้คำสั่งหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว แต่หากเจ้าหนี้ของบริษัทดังกล่าวไม่ตกลงหรือยินยอมเข้าร่วมโครงการแปลงหนี้เป็นทุนกับบริษัท ภายในวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ให้นายทะเบียนนำเสนอคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยเพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด นอกจากนี้ให้บริษัทรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขฐานะและการดำเนินการทุกวันจันทร์ของสัปดาห์

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมได้เน้นย้ำให้สำนักงาน คปภ. ให้ความคุ้มครองประชาชนผู้บริโภคเป็นสำคัญ โดยได้สั่งการไปยังสายตรวจสอบและสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ตลอดจนสำนักงาน คปภ.ทั่วประเทศ ตรวจสอบสาขา/สำนักงานตัวแทนของ บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งอยู่ในเขตรับผิดชอบ เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัท/ตัวแทน/นายหน้าประกันภัยขายกรมธรรม์รายใหม่ให้กับประชาชนในช่วงที่หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว และในระหว่างการขยายระยะเวลาการแก้ไขปัญหานี้ บริษัทฯ ยังคงให้บริการแก่ผู้เอาประกันภัยที่มีอยู่เดิมได้ตามปกติ แต่ไม่สามารถขายกรมธรรม์ประกันภัยรายใหม่ได้ ซึ่งบริษัทฯ ยังคงต้องทำหน้าที่จ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกันภัยตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยทุกประการ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186 หรือ www.oic.or.th” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย