ปณท. ผนึก ซีพีแรม ขนส่งลังกระดาษกว่า 2 ตัน ช่วยแก้วิกฤตขาดแคลนเตียงสนามช่วงโควิด-19 เร่งผลิตส่งมอบ รพ.สนามทั่วประเทศ

“ไปรษณีย์ไทย” จับมือ “ซีพีแรม” ขนส่งกล่อง-ลังกระดาษที่ไม่ใช้แล้วกว่า 2 ตัน ก่อนมอบ “เอสซีจี แพ็กเกจจิ้ง” นำไปผลิตเตียงสนามกระดาษเอสซีจีพี ส่งมอบให้ รพ.สนามทั่วประเทศ ตั้งเป้าใช้ศักยภาพขนส่ง-เข้าถึงทุกพื้นที่ รองรับกับการแพร่ระบาดโควิด-ขาดแคลนอุปกรณ์จำเป็นในการการพักรักษาตัวของผู้ป่วย 

นายกาหลง ทรัพย์สอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ และรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.เปิดเผยว่า เนื่องด้วยจำนวน ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) ในประเทศไทยได้เพิ่มมากขึ้น และเป็นสาหตุสำคัญที่ทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับพื้นที่ในการพักรักษา รวมถึงจำนวนเตียงที่เพียงพอต่อผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม

ดังนั้น เพื่อเป็นการรองรับปัญหาที่เกิดขึ้น ไปรษณีย์ไทยจึงได้ร่วมกับ บริษัท ซีพีแรม จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจอาหารพร้อมรับประทานในการร่วมขนส่งกล่องและลังกระดาษที่ไม่ใช้แล้ว เพื่อมอบให้กับบริษัท เอสซีจี แพ็กเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) นำไปผลิตเป็นเตียงสนามกระดาษเอสซีจีพี (SCGP Paper Field Hospital Bed) มอบให้กับโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ โดยความร่วมมือในครั้งนี้ มีเป้าหมายทั้งการสนับสนุนกล่อง-ลัง เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ตลอดจนเป็นการกระจายโอกาสผ่านนวัตกรรมเพื่อสังคมในช่วงที่สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ยังมีความน่าเป็นห่วง

ด้านนายวิษณุ สุขสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านปฏิบัติการนครหลวง สายงานปฏิบัติการ กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยได้ร่วมขนส่งกล่องและลังให้กับบริษัท ซีพีแรม จำกัด จำนวนกว่า 2,000 กิโลกรัม ซึ่งรับมอบจากนายปิยะโชค ปิยางสุ รองกรรมการผู้จัดการสายงานการผลิตและโลจิสติกส์ บริษัท ซีพีแรม จำกัด ขั้นตอนต่อไปจะมอบให้กับบริษัท เอสซีจี แพ็กเกจจิ้ง เพื่อเร่งผลิตเป็นเตียงสนามกระดาษให้ทันกับความต้องการของโรงพยาบาลสนาม และรองรับกับการแพร่ระบาดและการพักรักษาตัวของผู้ป่วยทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด

นอกจากนี้ ในช่วง พ.ค. 2564 ไปรษณีย์ไทยยังเตรียมใช้พื้นที่ที่ทำการไปรษณีย์ และเคาน์เตอร์บริการ พร้อมทั้งเตรียมเปิดตัวโครงการ “ไปรษณีย์…reBOX” เป็นจุดรับกล่องที่ไม่ใช้แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งจะนำไปร่วมในโครงการผลิตเตียงสนามกระดาษเอสซีจีพี (SCGP Paper Field Hospital Bed) เพื่อช่วยยกระดับความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย และผู้ใกล้ชิด และอีกส่วนจะนำไปใช้ในการสร้างคุณค่าและประโยชน์อื่นๆ ในเชิงสังคมต่อไป

ไปรษณีย์ไทยมีความตั้งใจในการให้ความช่วยเหลือกับกลุ่มการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งถือเป็นหน้าด่านสำคัญในช่วงที่ประเทศไทยยังต้องเผชิญกับโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยการดำเนินงานดังกล่าวถือเป็นนโยบายที่สำคัญของไปรษณีย์ไทย ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมผ่านการใช้ศักยภาพด้านการสื่อสาร-ขนส่ง และความเชี่ยวชาญในการเข้าถึงทุกพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ไปรษณีย์ไทยได้เปิดโครงการช่วยเหลือสังคมและการแพทย์อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็น โครงการ “ส่งความห่วงใย ส่งให้ สู้ภัยโควิด19” ปี 2564 เพื่อขนส่งหน้ากากอนามัย เจล/สเปรย์แอลกอฮอล์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ สิ่งของจำเป็นอื่นๆ จากคนไทยไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศด้วยบริการ EMS โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในการฝากส่ง การจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ให้กับทางโรงพยาบาลเพื่อนำจ่ายให้กับผู้ป่วย เพื่อลดความแออัดภายใต้การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 รวมทั้งยังมีการช่วยเหลือด้านการขนส่งเพื่อภาคเศรษฐกิจและสังคมอีกหลายด้าน”