ย้ำอีกเสียง! ‘สุวรรณภูมิ’ ยันไม่มีไฟลท์บินเช่าเหมาลำจากอินเดียเข้าไทย เสริมทัพคำชี้แจง ศบค.-กพท.

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตอกย้ำอีกเสียง ยืนยันไม่มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากอินเดียเข้ามายังไทย สอดรับคำชี้แจงกพท.-ศบค. ลั่น! ตอนนี้เหลือเพียงไฟลท์รับคนไทยกลับบ้าน ตามภารกิจของ .ต่างประเทศ ระบุ เดินหน้ามาตรการเข้มงวดดูแลการเดินทางเข้าออกประเทศ

นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีเครื่องบินเช่าเหมาลำจากประเทศอินเดีย ซึ่งขณะนี้มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ที่รุนแรง เข้ามายังประเทศไทยว่า จากกรณีดังกล่าว ทสภ. ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว และขอยืนยันว่าในระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่มีเครื่องเช่าเหมาลำเดินทางจากประเทศอินเดียมายังประเทศไทยผ่าน ทสภ. แต่อย่างใด

แฟ้มภาพ

นอกจากนี้ ล่าสุดศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ชี้แจงแล้วว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดย ทสภ.ในฐานะหน่วยงานผู้ดูแลการเดินทางเข้าออกประเทศทางอากาศ ขอยืนยันว่าภารกิจการรับเที่ยวบินจากประเทศอินเดียในเวลานี้ มีเพียงส่วนการรับคนไทยกลับบ้าน (Repatriation flight) ตามภารกิจของกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ซึ่งคนไทยจะเข้ามาได้จะต้องลงทะเบียนล่วงหน้า โดยไม่ได้มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำอื่นจากประเทศอินเดียเข้ามายัง ทสภ.

นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า ทสภ.ในฐานะท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนมาตรการคัดกรองผู้โดยสารของกระทรวงสาธารณสุข และศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) อย่างเข้มงวด สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ขนผู้โดยสารต่างชาติเข้าประเทศไทยในขณะนี้ ยังเป็นไปตามเงื่อนไขที่ กพท. กำหนด โดยผู้โดยสารทุกคนต้องผ่านมาตรการคัดกรองที่ ทสภ.อย่างเคร่งครัด ขณะที่ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้มีการบูรณการการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เมื่อผู้โดยสารทั้งคนไทยและคนต่างชาติเดินทางมาถึง ทสภ.

แฟ้มภาพ

สำหรับขั้นตอนดำเนินการนั้น ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ทสภ. จะดำเนินการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนด ตั้งแต่ลงจากเครื่องบิน โดยจัดให้ผู้โดยสารนั่งพักคอย เพื่อตรวจความครบถ้วนของเอกสารและตรวจคัดกรองโรค หลังจากที่ด่านควบคุมโรคฯ คัดกรองเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ กรณีถ้าผู้โดยสารไม่มีไข้จะไปผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และรับกระเป๋า และออกทางช่องทางพิเศษ เพื่อขึ้นรถ ที่จัดเตรียมไว้เฉพาะ โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) คอยกำกับดูแลนำผู้โดยสารไปส่งยังสถานกักตัวตามที่รัฐกำหนด ตามระยะเวลาการกักตัว 7-14 วันแล้วแต่เงื่อนไข ส่วนผู้โดยสารที่มีไข้ด่านควบคุมโรคฯจะดำเนินการนำส่งโรงพยาบาล และปฏิบัติตามมาตรการของ สธ. อย่างเคร่งครัดต่อไป

แฟ้มภาพ

นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ทสภ. ได้ให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสาธารณสุขโดยเน้นย้ำในการดูแลรักษาความสะอาดในทุกพื้นที่ภายในท่าอากาศยาน รวมถึงบริเวณพื้นที่จุดสัมผัสต่างๆ เช่นห้องน้ำ ลิฟต์ ทางเดินเลื่อน แบบ Deep Cleaning อย่างต่อเนื่องทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และได้ขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการทุกคนต้องถือปฏิบัติยึดหลักวิถีบินใหม่ D-M-H-T-T

สำหรับหลักวิถีบินใหม่ D-M-H-T-T นั้น ประกอบด้วย D (DISTANCING) เว้นระยะห่างกัน หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้อื่นM (MASK-WEARING) สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา H (HAND WASHING) หมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ T (TEMPERATURE CHECK) ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และ T (THAICHANA) สแกนแอปพลิเคชั่นไทยชนะ

อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ เชื่อมั่นในระบบการคัดกรองของภาครัฐที่ ทสภ. ว่า มีการดำเนินการอย่างเคร่งครัด และรัดกุม พร้อมทั้ง มั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยและสาธารณสุขของ ทสภ. ที่ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างละเอียดมาอย่างต่อเนื่อง โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง

แฟ้มภาพ