เปิดความในใจ! ‘นิรุฒ’ ผู้ว่าการรถไฟฯ ดำรงตำแหน่งครบ 1 ปี ส่งข้อความถึง พนง. ร่วมมือ ‘เพิ่มรายได้-ลดรายจ่าย’

“นิรุฒ” ผู้ว่าการรถไฟฯ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ในโอกาสดำรงตำแหน่งครบ 1 ปี เผยต่อจากนี้ จะทำหน้าที่ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมส่งต่อข้อความถึง “พี่น้องชาวรถไฟ” อัพเดทอาการโควิด-19 คาดออก รพ.ใน 2-3 วันนี้ วอนทุกฝ่ายร่วมมือสร้างรายได้-ลดค่าใช้จ่าย ย้ำ! 1 ปีที่ผ่านมา เดินหน้า “สายสีแดง-สถานีกลางบางซื่อ” พร้อมสานต่อโปรเจ็กต์ทางคู่ต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 เม.ย. 2564) นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (Niruj Maneepun) โดยมีใจความว่า 1 ปี ของการเป็น “ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย” สิ่งที่เกิดขึ้น ได้รับจากพี่น้องชาวรถไฟฯ จากผู้ร่วมงาน ทั้งในและนอกกระทรวงคมนาคม จากพี่น้องผู้โดยสาร รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย ได้ถูกหล่อหลอมออกมาเป็นรู้สึกในรูปแบบหนึ่ง

“เป็นความรู้สึกที่ทั้งรัก ทั้งผูกพัน เป็นห่วง อยากทำทุกอย่างให้ดีที่สุด อยากทุกทุกแรงกายแรงใจทำสิ่งที่ทำได้ให้ดีที่สุด วันเวลาต่อจากนี้ ผมจะทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีก จะเรียนรู้ และปฏิบัติให้มีผลสัมฤทธิ์ให้ดีขึ้นอีกครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานต่ออีกว่า นายนิรุฒ ยังได้โพสต์ภาพเอกสาร ซึ่งเป็นข้อความส่งถึง “พี่น้องชาวรถไฟทุกท่าน” ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟฯ ครบ 1 ปี โดยข้อความดังกล่าว ระบุว่า ผมต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวรถไฟทุกท่านอีกครั้ง ที่ได้แสดงความห่วงใยและส่งกำลังใจมาให้ผม ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายท่านคงได้วับทราบว่าผมต้องเข้ารับการรักษาการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งในช่วงแรกอาการเบื้องต้นยังไม่น่ากังวลเท่าไหร่ มีไข้บางช่วงเวลา และมีอาการไอเป็นระยะ

จนเมื่อประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดการติดเชื้อที่บริเวณปอด ทำให้ผมหายใจลำบากมาก ต้องย้ายเข้ารับการรักษาที่ห้อง ICU ทีมแพทย์ต้องให้ยาและให้นอนคว่ำหน้า จนเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา อาการดีขึ้น และสามารถกลับออกมาอยู่ห้องปกติได้ และคาดว่า อีกประมาณ 2-3 วัน ผมคงสามารถออกจากโรงพยาบาลเพื่อพักฟื้นต่อที่บ้านอีกสักระยะ

“อย่างไรก็ดี ยังมีพี่น้องชาวรถไฟอีกหลายท่ทน ที่ยังคงรับการรักษาอยู่ในขณะนี้ ผมขออวยพรให้ท่านสุขภาพแข็งแรงขึ้น และหายในเร็ววัน รวมถึงพี่น้องชาวรถไฟทุกๆ ท่าน ผมขอให้ทุกท่านดูแลรักษาสุขภาพ และใช้ชีวิตประจำวันรวมถึงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังครับ การติดเชื้อนั้น ทรมานมาก หายใจลำบาก จึงอยากให้ทุกท่านดูแลสุขภาพ และปฏิบัติตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ รักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ สวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา ผมขอให้ทุกท่านปลอดภัยครับ”

วันนี้ (24 เม.ย. 2564) เมื่อปีที่แล้ว (24 เม.ย. 2563) เป็นวันที่ผมได้เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย วันนั้น ผมได้มอบนโยบายต่างๆให้กับทุกๆ ท่าน รวมถึงความตั้งใจที่จะเข้ามาร่วมงานกับทุกๆ ท่าน บริหารองค์กรแห่งนี้ด้วยหลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใส โดยไม่ละเลยปฏิบัติตามพื้นฐานระเบียบและข้อกฎหมาย เพื่อให้กระบวนการทำงานต่างๆ เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อองค์กรและประเทศชาติ รวมถึงการสานต่อโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าสายสีแดง เป็นต้น

ผ่านมา 1 ปี ผมได้มีโอกาสเดินทางไปพบชาวรถไฟตามสถานี และจังหวัดต่างๆ ครบทุกสาย การเดินทางไปในแต่ละครั้งนั้น เป็นการเดินทางเพื่อเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ รับฟังความคิดเห็น และร่วมแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับพี่น้องขาวรถไฟ รวมถึงการติดตามและดูงานในพื้นที่ต่างๆ และหาโอกาสทางธุรกิจให้กับการรถไฟฯ ของพวกเราทุกคน

เราต้องไม่ลืมว่า สถานการณ์ของการรถไฟฯ นั้น ไม่ได้จัดอยู่ในรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้ เลี้ยงตัวเองได้ ถึงแม้ว่าหลายท่านทั้งในการรถไฟฯ เอง หรือสังคมภายนอกมักจะพูดว่า การรถไฟฯ มีที่ดินเยอะ ร่ำรวย แต่เราในฐานะคนรถไฟ เราต้องยอมรับความจริงว่า ภาระที่เราได้รับมอบหมายในการให้บริการ และดูแลพี่น้องประชาชนนั้น ไม่สามารถที่จะทำให้เราสร้างรายได้มากพอกับรายจ่ายที่เราต้องแบกภาระในทุกวันนี้ ดังนั้นสิ่งที่เราทุกคนต้องช่วยกัน คือ การเพิ่มรายได้ และลดค่าใช้จ่าย การมุ่งมั่นทุ่มเท และรับผิดชอบในงานและหน้าที่ของตนเอง คือ สิ่งที่ผมได้เคยพูดไว้ในวันแรกที่ผมได้มีโอกาสสื่อสารถ่ายทอดสดกับชาวรถไฟทุกคน

ในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมานั้น การรถไฟฯ ได้ดำเนินโครงการต่างๆ หลายโครงการ อาทิ รถไฟฟ้าสายสีแดง และสถานีกลางบางชื่อ ซึ่งตามแผนงานที่วางไว้จะมีการเปิดให้ประชาชนเข้าใช้บริการในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ รวมถึงโครงการอื่นๆ ที่กำลังดำเนินการไม่ว่าจะเป็นรถไฟทางคู่ และอื่นๆ ที่พวกเราชาวรถไฟกำลังดำเนินการอยู่

“ผมต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวรถไฟทุกคน ที่ทุ่มเทเพื่อให้งานออกมาสำเร็จลุล่วงผ่านไปได้ด้วยดี ยังมีงานอีกหลากหลายอย่างที่ยังรอให้พวกเราทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันสานต่อและสร้างสรรค์ เพื่อให้การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ของพวกเราทุกคนพัฒนาไปข้างหน้า ในฐานะผู้นำด้านการขนส่งของไทยและภูมิภาคอาเซียน และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนครับ ร่วมมือร่วมใจเพื่อพัฒนาองค์กรและทำให้การรถไฟฯ กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยกันนะครับ”

ที่มาภาพ : เฟซบุ๊ก – ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย