‘ถาวร’ เปิดใจพ้นตำแหน่ง รมช.คมนาคม ฝาก รมต.ใหม่ สานต่อ ‘เชื่อมโลก เชื่อมไทย สู่เมืองรอง’

“ถาวร” เปิดใจพ้นตำแหน่ง รมช.คมนาคม ฝาก รมต.ใหม่ สานต่อ “เชื่อมโลก เชื่อมไทย สู่เมืองรอง” พร้อมดัน Smart Airport ให้แล้วเสร็จ พ่วงหนุนเปิดสนามบินเบตง เม.ย.นี้ วอนให้ความสำคัญ “คนชนบท” เข้าถึงระบบโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม เปรียบงบลงทุนพัฒนา 29 สนามบินภูมิภาค 7 หมื่นล้าน ยังไม่เท่าโปรเจ็กต์เดียว “รถไฟฟ้าสายสีส้ม 1.28 แสนล้าน”

ภายหลังเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา ศาลอาญาชั้นต้นมีพิพากษา จำคุก 5 ปีไม่รอลงอาญา ในคดีคดีกลุ่มกบฏคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เป็นเหตุให้ต้องพ้นสภาพรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตามรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2560 มาตรา 160 (7) ที่บัญญัติไว้ว่า รัฐมนตรีต้องไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก โดยไม่คำนึงว่าคดีจะถึงที่สุดหรือไม่ หรือคำพิพากษาที่ให้ลงโทษจำคุกนั้น จะมีการรอการลงโทษ เว้นแต่ความผิดที่ศาลพิพากษาให้รอการลงโทษนั้น จะเป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ และความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้น

นายถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตามที่ตนได้เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2562 ที่ผ่านมา และได้กำกับดูแลหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมทางด้านอากาศ อาทิ กรมท่าอากาศยาน (ทย.) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) จึงได้ผลักดันนโยบายการขนส่งทางอากาศ “เชื่อมโลก เชื่อมไทย สู่เมืองรอง” โดยได้วางแนวทางการพัฒนาสนามบินภูมิภาค 29 แห่ง วงเงินประมาณ 7 หมื่นล้านบาท แต่ในขณะนี้ ได้ใช้งบประมาณไปเพียงแค่ 1.46 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ตนจึงต้องการให้รัฐมนตรีท่านใหม่เข้ามาสานต่อนโยบายและโครงการพัฒนาสนามบินดังกล่าวต่อไป

“ผมเป็นห่วงนโยบายเชื่อมโลก เชื่อมไทย สู่เมืองรอง ที่อยากให้เดินหน้าต่อ บางคนมองว่างบประมาณที่จะลงทุนสูงถึง 7 หมื่นล้านบาท ในการพัฒนาสนามบิน 29 แห่ง ไม่คุ้มค่าทางด้านเศรษฐกิจ และประชาชนได้ประโยชน์อะไร ผมมองว่า วงเงิน 7 หมื่นล้าน น้อยนิด ยังไม่เท่ากับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเส้นเดียวเลย ซึ่งคนต่างจังหวัดอีกกว่า 60 ล้านคนต้องได้รับการดูแล ผมพูดแบบนี้ ไม่ได้อิจฉาคนกรุงเทพมหานคร (กทม.) หรืออิจฉาบริษัทก่อสร้างรถไฟฟ้าหลากสี แต่อยากฝาก และรณรงค์ให้คนชนบท จะต้องได้เข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมเช่นเดียวกัน” นายถาวร กล่าว

นายถาวร กล่าวต่ออีกว่า ขณะเดียวกัน ในปี 2562 ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 2.2 ล้านล้านบาท ถึงแม้ในช่วงปีที่ผ่านมา ทั้งจำนวนผู้โดยสาร และเที่ยวบินจะลดลง แต่เรื่องการพัฒนาสนามบินยังต้องเดินหน้าต่อ ยังเป็นส่วนช่วยในการส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงต้องการให้วางแนวทางในการเชื่อมโครงข่าย ระหว่างสนามบิน ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ โรงแรม รวมถึงการเชื่อมโยง (Connectivity) ระบบคมนาคมขนส่ง รถ-เรือ-รถไฟ-อากาศ เพื่อเตรียมความพร้อมสอดรับกับการคาดการณ์ของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ที่ระบุว่า จำนวนผู้โดยสารภายในประเทศของไทยจะเข้าสู่สภาวะปกติ ในปี 2565-2566 และระหว่างประเทศในปี 2566-2567

เมื่อถามถึงการเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยังมีโครงการใด หรือนโยบายไหนที่ยังไม่ได้ดำเนินการตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ นายถาวร กล่าวว่า การพัฒนาให้สนามบินมีความทันสมัย (Smart Airport) ถือเป็นเรื่องที่ยังดำเนินการไม่จบ อยู่ในช่วงการเริ่มต้นเท่านั้น และต้องการให้รัฐมนตรีท่านใหม่เข้ามาสานต่อ ทั้งในส่วนของการนำระบบ IT มาใช้ เพื่อให้ทราบล่วงหน้าถึงจำนวนผู้ใช้บริการ รวมถึงการจับจ่ายใช้สอย การซื้อตั๋วเครื่องบิน ผ่านระบบเทคโนโลยี และด้านความปลอดภัยตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ส่วนโครงการที่ภาคภูมิใจนั้น คือ ทุกเรื่องที่ได้ดำเนินการ ทุกสนามบินของ ทย. ที่ตนกำกับดูแล

นายถาวร ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการพัฒนาสนามบินเบตงว่า ได้มอบหมายนายเจือ ราชสีห์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทำหน้าที่เป็นประธานคณะทำงานเร่งรัดการเปิดใช้ท่าอากาศยานเบตง จังหวัดยะลา พร้อมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ทย., บวท., สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.), กรมอุตุนิยมวิทยา, สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) รวมถึงภาคเอกชน เพื่อทดสอบระบบนำร่อน และให้สามารถเปิดให้บริการเที่ยวบินปฐมฤกษ์ได้ภายใน เม.ย. 2564 ทั้งนี้ ได้ฝากไปยังนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดี ทย. ไว้แล้ว