‘การรถไฟฯ’ จ่อลงนาม 4 สัญญา ‘ไฮสปีดไทย-จีน’ มูลค่า 3.55 หมื่นล้าน ภายใน 1-2 เดือนนี้

“การรถไฟฯ” เตรียมลงนามรวด 4 สัญญา “ไฮสปีดไทย–จีน” วงเงิน 3.55 หมื่นล้าน ภายใน 1-2 เดือนนี้ ด้าน “บอร์ดรถไฟ” ไฟเขียวขยายระยะเวลารถไฟสายสีแดงสัญญาที่ 3 ยันไม่กระทบแผนเปิดเดินรถ พ่วงขยายเวลาไทย–จีน สัญญา2-1 “สีคิ้ว–กุดจิก” หลังพบเสาโทรเลขขวางทางก่อสร้าง 11 กม. พร้อมอัปเดทส่งมอบพื้นที่ 5 สัญญา ระยะทาง 101 กม.

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ภายใน 1-2 เดือนนับจากนี้ รฟท. เตรียมลงนามสัญญาจ้างในโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย–จีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร–หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วง กรุงเทพมหานคร–นครราชสีมา) จำนวน 4 สัญญา รวมวงเงินประมาณ 35,500 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.สัญญา 4-2 ช่วงดอนเมือง–นวนคร ระยะทาง 21.80 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน8,600 ล้านบาท, สัญญา 4-3 ช่วงนวนคร–บ้านโพ ระยะทาง 23 กม. วงเงิน 11,000 ล้านบาท, สัญญา 4-4 ศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย วงเงิน 6,500 ล้านบาท และสัญญา 4-6 ช่วงพระแก้ว–สระบุรี ระยะทาง 31.60 กม. วงเงิน 9,400 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในส่วนของ 4 สัญญาที่จะลงนามนั้น ในขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำเอกสารสัญญา ขณะที่สัญญาที่เหลือ เช่นสัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ–พระแก้ว ระยะทาง 13.30 กม. วงเงิน 9,900 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มเติม, สัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ–ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กม. วงเงิน 10,000 ล้านบาท จะต้องรอความชัดเจนเนื่องจากโครงสร้างทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง–สุวรรณภูมิ–อู่ตะเภา)

นายนิรุฒ กล่าวต่ออีกว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฯ เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมบอร์ดการรถไฟฯ มีมติอนุมัติขยายระยะเวลาก่อสร้างงานสัญญาที่ 3 งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมตู้รถไฟฟ้าของโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ–รังสิต และช่วงบางซื่อ– ตลิ่งชัน สืบเนื่องจากสัญญาที่1 งานโยธาสถานีกลางบางซื่อ และศูนย์ซ่อมบำรุง แผนงานมีความล่าช้า และกระทบกับแผนการดำเนินการสัญญาที่ 3 จึงต้องมีการขยายเวลาออกไปอีก 223 วัน ซึ่งจะเริ่มจากวันที่ 14 ก.พ.-24 ก.ย. 2564

ทั้งนี้ การขยายระยะเวลาดังกล่าว จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องไม่กระทบต่อการเดินรถเสมือนจริง และการทดลองระบบต่างๆ ที่จะดำเนินการภายในปีนี้ รวมถึงยืนยันว่า การขยายกรอบเวลาดังกล่าว จะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในส่วนของความคืบหน้าการดำเนินการของสัญญาที่ 3 นั้น ขณะนี้อยู่ที่ประมาณกว่า 90% ล่าช้าไม่ถึง 1% จึงมั่นใจว่าจะไม่กระทบแผนอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ที่ประชุมบอร์ดการรถไฟฯ ยังมีมติอนุมัติขยายระยะเวลา และงดเว้นค่าปรับสัญญาจ้างงานสัญญาที่ 2-1 งานโยธา ช่วงสีคิ้ว–กุดจิก ของโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย–จีน ช่วงกรุงเทพมหานคร–หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร–นครราชสีมา) โดยอนุมัติขยายเวลาออกไป 217 วัน เริ่มตั้งแต่ 22 ต.ค. 2563-26 พ.ค. 2564 ทั้งนี้ การขยายเวลาของสัญญาดังกล่าว เนื่องจากแนวเส้นทางที่จะก่อสร้างโครงการฯ มีเสาโทรเลขขวางทางงานก่อสร้าง ระยะทางกว่า 11 กิโลเมตร (กม.) และกระทบกับงานก่อสร้างทั้งหมด จึงต้องทำการรื้อย้ายออกก่อนและเดินสายใหม่

นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า ตามที่ รฟท. ได้ลงนามสัญญาจ้างโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย–จีน จำนวน 5 สัญญา รวมระยะทาง 101.15 กม. วงเงิน 40,275 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมานั้น ความคืบหน้าในขณะนี้ รฟท. ได้ออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed : NTP) ไปแล้วจำนวน 4 สัญญาตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา และนับระยะเวลาในสัญญาไป 36 เดือน (3 ปี) ประกอบด้วย 1.สัญญา 3-3 ช่วงบันไดม้า–ลำตะคอง ระยะทาง 21.60 กม. วงเงิน9,838 ล้านบาท

2.สัญญา 3-4 ช่วงลำตะคอง–สีคิ้วและช่วงกุดจิก–โคกกรวด ระยะทาง 37.45 กม. วงเงิน 9,848 ล้านบาท 3.สัญญา 3-5 ช่วงโคกกรวด–นครราชสีมา ระยะทาง 12.38 กม. วงเงิน 7,750 ล้านบาท และ 4.สัญญา 4-7 ช่วงสระบุรี–แก่งคอย ระยะทาง 12.99 กม. วงเงิน 8,560 ล้านบาท ขณะที่ อีก 1 สัญญา คือ สัญญา 3-2 ช่วงงานอุโมงค์มวกเหล็กและลำตะคองระยะทาง 12.23 กม. วงเงิน 4,279.33 ล้านบาท อยู่ระหว่างการขอพื้นที่กับกรมป่าไม้ เนื่องจากต้องก่อสร้างอุโมงค์ ซึ่งคาดว่า จะสามารถออก NTP ได้ในวันที่ 19 เม.ย. 2564