‘ทางหลวงฯ’ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ปมนั่งร้านสร้างถนนวงแหวนรอบเมืองโคราชถล่ม เดดไลน์รายงานข้อสรุปภายใน 7 วัน

“ทางหลวงฯ” ตั้ง 3 คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีนั่งร้านสร้างถนนวงแหวนรอบเมืองโคราชถล่ม เหตุทำให้มีผู้บาดเจ็บ 9 ราย พร้อมเดดไลน์ต้องได้ข้อสรุปภายใน 7 วัน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วานนี้ (25 ม.ค. 2564) กรมทางหลวง (ทล.) ได้มีคำสั่งกรมทางหลวง เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่ ทล.ได้ดำเนินการโครงการก่อสร้างสายถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมาตอนแยกทางหลวงหมายเลข 2068-บรรจบทางหลวงหมายเลข 205 (ด้านเหนือ) (รวมทางแยกต่างระดับ) ตอน 2 ซึ่งเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา เกิดเหตุนั่งร้านทรุดตัว ขณะดำเนินการเทคอนกรีตโครงสร้างพื้นส่วนบนของสะพานยกระดับคู่ขนานกับทางสายหลัก ส่วนที่ข้ามทางหลวงหมายเลข 250 จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย

ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงดังกล่าว และเป็นประโยชน์แก่ทางราชการ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงประกอบด้วย 1.นายฉัตรชัย อำนาจบุคดี วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ เป็นประธาน 2.นายธงชัย รุ่งเรือง นายช่างโยธาอาวุโส เป็นกรรมการ และ 3.สิบเอกวิทวัส พาโคกทม วิศวกรโยธาปฏิบัติการ เป็นเลขานุการ สำหรับคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นนั้น จะมีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบรายละเอียด ข้อเท็จจริง และขั้นตอนการดำเนินการก่อสร้าง พร้อมทั้งต้องรายงานผลการดำเนินการให้นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดี ทล. รับทราบภายใน 7 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้เกิดอุบัติเหตุโครงสร้างสะพานข้ามแยกถนนวงแหวนนครราชสีมาขณะที่กำลังก่อสร้าง โดยใช้ตัวรับโครงสร้างสำหรับเทคอนกรีตสะพาน หรือนั่งร้าน ไม่มีความแข็งแรงเพียงพอ ทำให้ในระหว่างกำลังเทคอนกรีต สะพานเกิดการทรุดตัว บริเวณงานก่อสร้างสะพานข้ามแยกถนนวงแหวนนครราชสีมาต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา บนทางหลวงวงแหวนนครราชสีมา หมายเลข 290 ด้านทิศเหนือ ตอนที่2 ตัดกับทางหลวงหมายเลข 205 ตอน โคกสวาย–แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 1 ที่ กม.217+500 (เป็นพื้นที่รับผิดชอบของโครงการก่อสร้าง) 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทล.ได้ดำเนินการแก้ไข โดยให้ทางผู้รับจ้างดำเนินการรื้อถอนโครงสร้างนั่งร้าน และเศษวัสดุออกจากจุดเกิดเหตุโดยเร่งด่วน และให้เยียวยาผู้ที่ได้รับการบาดเจ็บ พร้อมทั้งได้ประชุมวิเคราะห์สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวให้ชัดเจนอีกครั้ง ขณะเดียวกัน ทล.ได้สั่งการให้กำชับมาตรการความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้าง พร้อมทั้งเข้มงวดเต็มที่ในทุกพื้นที่ที่อยู่ระหว่างโครงการก่อสร้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุแบบนี้เกิดขึ้นอีก