‘ทางหลวงฯ’ เร่งติดตั้งสะพานเบลี่ย์ (สะพานเหล็ก) สนองข้อสั่งการ ‘ศักดิ์สยาม’ พร้อมช่วยเหลือ ปชช.ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้

“ศักดิ์สยาม” สั่ง “กรมทางหลวง” เร่งติดตั้งสะพานเบลี่ย์ (สะพานเหล็ก)-ให้ความช่วยเหลือ ปชช.ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้เต็มที่ คาดเสร็จครบ 3 แห่ง 7 ธ.ค.นี้

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมทางภาคใต้ทำให้เส้นทาง และสะพานได้ชำรุดทรุดตัวเสียหายนั้น กรมทางหลวง โดยศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 4 (นครศรีธรรมราช) ได้เร่งดำเนินการติดตั้งสะพานเบลี่ย์ (สะพานเหล็ก) เป็นการชั่วคราว เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติ ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยได้สั่งการให้กรมทางหลวงช่วยเหลือประชาชน อำนวยความสะดวกปลอดภัย และซ่อมแซมโครงข่ายทางหลวงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในครั้งนี้ อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ ในปัจจุบันได้ติดตั้งสะพานเบลี่ย์จำนวน 3 แห่ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่

  1. ทางหลวงหมายเลข 4019 ตอนทุ่งใหญ่-ช้างกลาง ที่กม.17+100 (คันทางขาด) ขณะนี้ดำเนินการติดตั้งสะพานเบลี่ย์แล้วเสร็จและเปิดให้รถวิ่งสัญจรได้ พร้อมติดตั้งป้าย สัญญาณไฟเตือนบริเวณจุดคอสะพาน
  2. ทางหลวงหมายเลข 4186 ตอนโรงเหล็ก-ห้วยพาน ที่ กม.5+777 (ตอม่อสะพานทรุดตัว) ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตั้งสะพานเบลี่ย์ คาดแล้วเสร็จภายในวันที่ 6 ธ.ค. 2563
  3. ทางหลวงหมายเลข 4186 ตอนโรงเหล็ก-ห้วยพาน ที่ กม.1+128 (สะพานขาด) ขณะนี้กระแสน้ำลดระดับความรุนแรงลง อยู่ระหว่างการติดตั้งสะพานเบลี่ย์ คาดแล้วเสร็จภายในวันที่ 7 ธ.ค. 2563

นอกจากนี้ ทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม และยังผ่านไม่ได้มีจำนวน 3 แห่ง ดังนี้ ทล.4258 บ้านซา-ควนชัน อ.ห้วยยอด จ.กระบี่ ที่กม.10+500-11+000 ระดับน้ำสูง 30 ซม., ทล.4347 ตลาดฉุ้น-บ้านซา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ที่ กม.1+000-2+000 ระดับน้ำสูง 100-150 ซม. และ ทล.4246 เขาวง-หน้าเขา อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ที่กม.29+533-29+773 ระดับน้ำสูง 60 ซม. อย่างไรก็ตาม กรมทางหลวงยังจะติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยจนกว่าจะคลี่คลายกลับสู่สภาวะปกติ

ทั้งนี้ ผู้ใช้เส้นทางโปรดสังเกตป้ายแนะนำ ป้ายเตือน ตามที่ได้ติดตั้งไว้ และขับขี่อย่างระมัดระวังปฏิบัติตามกฎจราจรและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนพบเห็นถนนหรือสะพานชำรุดเสียหายหรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งเหตุได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ทั่วประเทศ และสายด่วน กรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)