พาณิชย์ดันสินค้าข้าวไทยรุกตลาดฮ่องกง

สนธิรัตน์ แม่ทัพพาณิชย์ จับเข่าคุยสมาคมผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง และ 759 Stores ดันข้าวชนิดพิเศษและผลิตภัณฑ์จากข้าว เจาะกลุ่ม Niche Market ในฮ่องกง พร้อมเล็งต่อยอดสู่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่

เมื่อวันที่ 27-28 พ.ย.61 ที่ผ่านมา นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นางบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดี และคณะผู้บริหารระดับสูงกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เดินทางเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกงเพื่อต่อยอดกระชับความสัมพันธ์เชิงรูปธรรมในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ พร้อมพบหารือภาคเอกชนรายสำคัญ ได้แก่ กลุ่มผู้ค้าข้าวนำโดย Mr.Kenneth Chan ประธานสมาคมผู้ค้าข้าวฮ่องกง และประธานบริษัท 759 Stores (MsIda Tang) ซึ่งดำเนินกิจการร้านสะดวกซื้อที่มีสาขากว่า 200 แห่งทั่วเกาะฮ่องกง

นายสนธิรัตน์ เปิดเผยว่า ฮ่องกงถือเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่สำคัญของไทย และมีความสำคัญในฐานะเป็นซูเปอร์คอนเนคเตอร์ ที่เชื่อมโยงจีนแผ่นดินใหญ่กับโลกผ่านเขตเศรษฐกิจ PPRD และGBA โดยที่ผ่านมา ฮ่องกงถือเป็นหนึ่งในตลาดนำเข้าข้าวหอมมะลิคุณภาพสูงที่สำคัญของไทย ซึ่งการพบหารือกับกลุ่มผู้นำเข้าข้าว รวมถึงเครือข่ายร้านสะดวกซื้อในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการต่อยอดความร่วมมือในการส่งเสริมการตลาดสินค้าข้าวไทยแล้ว ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อตอกย้ำศักยภาพของไทยในการเป็นประเทศผู้ผลิตข้าวคุณภาพสูงและมีความหลากหลายของสายพันธุ์ออกสู่ตลาดโลก ซึ่งทั้งประธานสมาคมผู้ค้าข้าวฮ่องกง และประธานบริษัท 759 Stores ต่างก็ให้ความเชื่อมั่นในคุณภาพของข้าวไทยมาโดยตลอด

ทั้งนี้ บริษัท 759 Stores ยินดีที่จะพิจารณาเพิ่มการนำเข้าข้าวไทย ทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนิล และข้าวสังข์หยด ตลอดจนผลิตภัณฑ์จากข้าว อาทิ น้ำมันรำข้าว แป้งข้าวโปรตีนต่ำ เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมถึงสินค้าอื่นๆ จากไทยเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า Niche Market ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

การเติบโตของตลาดกลุ่ม Niche Market ในฮ่องกงถือเป็นสัญญาณที่ดีในการขยายการส่งออกสินค้าข้าวชนิดพิเศษรวมถึงผลิตภัณฑ์จากข้าวไปสู่ตลาดจีน เนื่องจากผู้บริโภคชาวจีนแผ่นดินใหญ่ส่วนใหญ่มองว่าชาวฮ่องกงเป็นกลุ่ม Trend Setter รวมทั้งสินค้าหรือบริการที่เข้าสู่ตลาดฮ่องกงได้ก็มีแนวโน้มว่าจะสามารถตีตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ได้เช่นกัน” นายสนธิรัตน์ กล่าวเสริม

นอกจากนี้ บริษัท 759 Stores ยังได้จับมือกับผู้ประกอบการท้องถิ่นในจัวหวัดต่างๆ ของไทยทำCoBranding ในหลากหลายสินค้าซึ่งรวมถึงหอมมะลิและข้าวสีต่างๆ ของไทย และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคฮ่องกง ซึ่งนายสนธิรัตน์ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ผมเห็นว่าการทำ CoBranding เป็นโมเดลที่ดีเพื่อสร้างความยั่งยืนในการส่งออกให้กับสินค้าแบรนด์ไทย ถือเป็นการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจอันจะส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาวได้อย่างมั่นคง”

ฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกข้าวหอมมะลิอันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา ด้วยส่วนแบ่งการตลาดกว่าร้อยละ 65 หรือมากกว่า 2 แสนตัน/ปี โดยในปี 2560 การส่งออกข้าวหอมมะลิของไทยคิดเป็นปริมาณกว่า 1.61 ล้านตัน หรือประมาณ 1245.13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ ยอดการส่งออกข้าวหอมมะลิในช่วงเดือนมกราคม – กันยายน 2561 คิดเป็นปริมาณ 8.7 แสนตัน ด้วยมูลค่ากว่า 985.53 ล้านเหรียญสหรัฐฯ