‘คมนาคม’ สั่งหน่วยงาน พร้อมรับมือสถานการณ์ ‘พายุโนอึล’ เน้นใช้แผนบรรเทาสาธารณภัยเคร่งครัด
“ศักดิ์สยาม” สั่งหน่วยงานเตรียมพร้อม–รับมือสถานการณ์การพายุโนอึล ด้าน “อธิรัฐ” รมช.คมนาคม มอบ จท. ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ฟาก “ทางหลวงฯ” รับลูก สั่งการหน่วยงานทั่วประเทศจัดเจ้าหน้าที่–อุปกรณ์สแตนบาย 24 ชม. พร้อมเปิดจุดเสี่ยง 18-20 ก.ย.นี้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์พายุโนอึลอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมโดยใช้การปฏิบัติตามแผนบรรเทาสาธารณภัยอย่างเคร่งครัด และมีประสิทธิภาพ รวมถึงให้รายงานการดำเนินการมายังกระทรวงฯ ทันที เมื่อเกิดสถานการณ์
ด้านนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่า (จท.) ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยให้จัดเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุประจำอยู่ในสำนักงาน และกำชับให้เจ้าหน้าที่อยู่ในพื้นที่ พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดสถานการณ์รุนแรงเกินที่จะรับมือได้ ให้ประสานความร่วมมือจากจังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที รวมถึงให้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนผู้ประกอบการเรือชาวเรือที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างต่อเนื่อง
โดยก่อนหน้านี้กรมเจ้าท่าได้ออกประกาศ 189/2563 แจ้งเตือนชาวเรือ ให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ช่วงวันที่ 17-20 ก.ย. 2563 เรือเล็กขนาดไม่เกิน 10 เมตร ห้ามออกจากฝั่ง และที่จังหวัดภูเก็ต สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ได้มีประกาศเตือนชาวเรือในพื้นที่ ให้ผู้ควบคุมเรือ เจ้าของเรือ หรือผู้ประกอบการเดินเรือ ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ หลีกเลี่ยงการเดินเรือ ผ่านบริเวณที่มีฝนตกหนักในช่วงวันที่ 17-20 ก.ย. 2563 ผู้ควบคุมเรือทุกลำ ตรวจสอบความพร้อมของตัวเรือ เครื่องยนต์เรือและจัดเตรียมเครื่องมือ และอุปกรณ์ประจำเรือรวมทั้งเรือช่วยชีวิต อุปกรณ์ช่วยชีวิตต่างๆ ให้พร้อมใช้งานได้ทุกขณะ และให้สวมใส่เสื้อชูชีพตลอดระยะเวลาขณะอยู่ในเรือ ทั้งนี้ ต้องติดตามรายงานข่าวสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยาใกล้ชิดตลอดเวลา
ขณะที่นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า จากข้อสั่งการของนายศักดิ์สยามนั้น ทล.จึงได้สั่งทุกแขวงทางหลวงจำนวน 104 แขวง หมวดทางหลวงจำนวน 581 หมวด รวมถึงศูนย์สร้างทางจำนวน 5 แห่ง (ลำปาง, หล่มสัก, ขอนแก่น, กาญจนบุรี, สงขลา) และศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจำนวน 4 แห่ง (พิจิตร, ขอนแก่น, ปทุมธานี, นครศรีธรรมราช) เตรียมพร้อม ทั้งเครื่องมือ เครื่องจักร โดยเฉพาะเตรียมสะพานเบลี่ย์ (สะพานเหล็ก) กรณีหากเกิดทางขาดสะพานขาด และจัดเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงในช่วงวันที่ 18-20 ก.ย. 2563
สำหรับพื้นที่เสี่ยงที่ ทล.วิเคราะห์นั้น แบ่งเป็น 3 วัน ได้แก่ วันที่ 18 ก.ย. 2563 ประกอบด้วย
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) คือ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด
- ภาคตะวันออก คือ ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี ตราด
- ภาคใต้ คือ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล
ทั้งนี้ วันที่ 19 ก.ย. 2563 ทล. ได้วิเคราะห์พื้นที่เสี่ยง ได้แก่
- ภาคเหนือ คือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร สุโขทัย ตาก
- ภาคอีสาน คือ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด
- ภาคกลาง คือ กาญจนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี
- ภาคตะวันออก คือ นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด
- ภาคใต้ คือ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล
วันที่ 20 ก.ย. 2563 ได้แก่
- ภาคเหนือ คือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง กำแพงเพชร สุโขทัย ตาก
- ภาคกลาง คือ ราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี
- ภาคตะวันออก คือ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด
- ภาคใต้ คือ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทาง โปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.)