ผู้นำ RCEP ออกถ้อยแถลงยืนยันปิดรอบปีหน้า ประเมินผลปีนี้ก้าวหน้าได้ตามแผนที่วางไว้

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 33 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมการประชุมผู้นำ RCEP (ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค – Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) ครั้งที่ เมื่อวันที่ 14 พ.ย.61 โดยที่ประชุมผู้นำได้ประกาศแถลงการณ์ร่วมแสดงความยินดีที่การเจรจาในปี 2561 มีความคืบหน้าที่สำคัญ และได้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการเจรจาแล้ว โดยผู้นำแสดงเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะสรุปผลการเจรจาทั้งหมดในปี 2562 ซึ่งเป็นปีที่ไทยจะเป็นประธานอาเซียน

นางสาวชุติมา กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้าการประชุมระดับผู้นำ RCEP 16 ประเทศ มีการประชุมเตรียมการของรัฐมนตรี RCEP เมื่อวันที่ 12 พ.ย.61 ซึ่งได้มีการประเมินว่าการเจรจาในปีนี้มีความก้าวหน้าอย่างมาก โดยประเทศสมาชิกได้ยื่นปรับปรุงข้อเสนอการเปิดตลาดสินค้า บริการ และการลงทุน ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ค่อนข้างพอใจต่อระดับการเปิดตลาดที่ได้รับระหว่างกัน แต่ยังคงมีประเด็นที่บางประเทศต้องหารือกันต่อบ้าง การเจรจาครั้งนี้ยังได้สรุปข้อบทเพิ่มเติมอีก ข้อบทตามที่ตั้งเป้าไว้ ได้แก่ มาตรการสุขอนามัย กฎระเบียบทางเทคนิค และสถาบัน

สมาชิก RCEP เห็นพ้องกันถึงความสำคัญในการปิดรอบเจรจาในปีหน้า และเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการจัดทำความตกลงการค้าเสรีระดับภูมิภาค จึงพร้อมร่วมกันผลักดันให้การเจรจา RCEP บรรลุผลสำเร็จในปี 2562 โดยจะถือโอกาสปีหน้าที่ไทยจะนั่งเป็นประธานอาเซียนเร่งขับเคลื่อนการเจรจาอย่างเต็มที่เพื่อให้บรรลุข้อตกลงได้ทั้งหมด” รมช.พาณิชย์ กล่าว

ทั้งนี้ ความตกลง RCEP เป็นการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ ที่จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับการผลิตและเศรษฐกิจของภูมิภาค และในส่วนของไทยความตกลง RCEP จะช่วยปรับประสานกฎระเบียบให้มีความสอดคล้องกัน และอำนวยความสะดวกในการทำการค้าในภูมิภาคอาร์เซ็ป อาทิ พิธีการศุลกากร มาตรฐานสุขอนามัยพืช และกฎระเบียบทางเทคนิค จะส่งผลให้การผ่านพิธีการศุลกากร แนวทางในการปฏิบัติเพื่อสร้างความมั่นใจว่ากฎหมายและกฎระเบียบของประเทศสมาชิก รวมทั้งการตรวจสอบมาตรฐานทั้งสินค้าอุตสาหกรรมและเกษตร มีความชัดเจน แน่นอน และโปร่งใส  ซึ่งจะทำให้ระบบการตรวจปล่อยสินค้ามีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น