‘บขส.’ จ่ออัดงบ 2,800 ล้าน ซื้อ-เช่ารถกว่า 400 คัน

บขส.เตรียมทุ่มงบ 2,800 ล้าน ลุยจัดซื้อรถใหม่ 99 คัน-เช่ารถ 314 คัน หวังทดแทนรถเก่า พร้อมเพิ่มฟลีตรถรับการเดินทางประชาชน “จิรศักดิ์” ลั่น ปี 62 กวาดรายได้ขนส่งสินค้า 200 ล้าน หลังเตรียมเปิดให้บริการรับ-ส่งสินค้าจากหน้าประตูบ้าน

นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. เปิดเผยว่า บขส.เตรียมเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาโครงการจัดซื้อรถใหม่ใช้เชื้อเพลิงดีเซล จำนวน 99 คัน วงเงินประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อนำมาวิ่งให้บริการประชาชน พร้อมทั้งเพื่อให้เป็นทรัพย์สินของ บขส.ด้วย จากเดิมรถที่ให้บริการจะเป็นการเช่าเท่านั้น โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอโครงการไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์พิจารณา ก่อนที่จะเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมต่อไป พร้อมทั้งส่งเรื่องตีความว่า จะต้องนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. พิจารณาอนุมัติหรือไม่ เนื่องจากการจัดซื้อรถใหม่ดังกล่าว มีวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บขส. ยังมีแผนเช่ารถ จำนวน 314 คัน วงเงิน 2,200 ล้านบาท สัญญาเช่า 4 ปี เพื่อนำมาทดแทนรถเก่าที่มีอายุเกิน 5-6 ปี ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำประชาพิจารณ์ ก่อนที่จะออกเอกสารประกวดราคา หรือ ทีโออาร์ต่อไป คาดว่าภายในปี 2562 จะสามารถเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างได้ ทั้งนี้ ทั้งการจัดซื้อรถใหม่ การเช่ารถ รวมถึงโครงการเช่ารถโดยสารขนาดเล็ก หรือมินิบัส จำนวน 55 คันนั้น จะทำให้ บขส.มีรถวิ่งให้บริการประชาชนประมาณ 500-600 คัน จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 480 คัน

นายจิรศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ภายในปี 2562 บขส.มีแผนเปิดให้บริการรับ-ส่งพัสดุภัณฑ์ Door-to-Door หรือการรับสินค้าจากผู้ส่งตั้งแต่ต้นทาง เพื่อนำไปส่งยังปลายทางถึงที่ จากเดิมผู้ใช้บริการจะต้องไปส่งและรับสินค้าที่สถานีขนส่งเท่านั้น ทั้งนี้ การเปิดให้บริการดังกล่าว เชื่อว่าในปี 2562 จะทำให้ บขส.มีรายได้จากการขนส่งพัสดุภัณฑ์ประมาณ 200 ล้านบาท จากในปี 2561 ที่มีรายได้ 160 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ บขส.อยู่ระหว่างการคัดเลือกเอกชนที่จะมาวางระบบและเป็นพาร์ทเนอร์ในการรับ-ส่งสินค้า

สำหรับแผนการดำเนินการในปี 2562 นั้น บขส.จะเน้นการให้บริการประชาชนที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคุณภาพการให้บริการของพนักงานขับรถ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ขณะเดียวกัน บขส. ตั้งเป้าหมายที่จะทำให้สถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่ง ก้าวสู่รูปแบบ Smart Station ด้วย นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีหน้า เตรียมออกแอพพลิเคชั่นที่จะสามารถจองตั๋ว ตรวจสอบการเดินทาง เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลต่างๆ ที่มีประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมาก