‘ทางหลวงฯ’ เร่งซ่อมสะพานขาด ทล.118 ‘เชียงใหม่-เชียงราย’ คาดเสร็จพร้อมเปิดสัญจรปกติพรุ่งนี้ (5 ส.ค. 63) 12.00 น. งดให้วิ่งช่วงเวลากลางคืน เพื่อความปลอดภัย

“สราวุธ” ลงพื้นที่ ทล.118 สั่งการแขวงทางหลวงในพื้นที่ เร่งช่วยเหลือประชาชนได้รับผลกระทบน้ำท่วม สนองข้อสั่งการ “ศักดิ์สยาม” พร้อมเตรียมเครื่องจักรสแตนบายในพื้นที่สุ่มเสี่ยง เผยสถานการณ์ “เชียงใหม่-เชียงราย” สะพานขาดรวม 8 จุด คาดซ่อมแล้วเสร็จ-กลับมาสัญจรได้พรุ่งนี้ (5 ส.ค. 2563) ก่อนเที่ยง ย้ำ! จะยังไม่ให้สัญจรช่วงเวลากลางคืน จนกว่าจะกลับมาปกติ หวั่นไม่ปลอดภัย

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่วันนี้ (4 ส.ค. 2563) เพื่อเข้าตรวจสอบ พร้อมให้คำแนะนำแนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 118 สายเชียงใหม่-เชียงราย ตอน อ.ดอยสะเก็ด-ต.ป่าเมี่ยง ตอน 2 ที่เกิดปัญหาอุทกภัย น้ำป่าไหลหลากของเส้นทางสาย ทล.118 หลังโดนอุทกภัยจาก “พายุซินลากู” ถล่ม ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ว่า ได้เน้นย้ำให้แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 และแขวงทางหลวงเชียงรายที่ 1 ให้บริการช่วยเหลือประชาชนที่สัญจรไปมาอย่างดีที่สุด ตามข้อสั่งการของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 1 (พิจิตร) เตรียมเครื่องจักรให้พร้อม และเตรียมทอดสะพานเบลีย์ (สะพานเหล็กชั่วคราว) ในพื่นที่สุ่มเสี่ยงที่อาจจะทำให้สะพาดขาด กรณีที่มีฝนตกหนัก และน้ำป่าไหลแรง

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ดังกล่าว ได้รับรายงานจากแขวงทางหลวงฯ ว่า วันนี้ เมื่อเวลา 12.30 น.ที่ผ่านมา กรมทางหลวงได้ช่วยประชาชนชุดสุดท้ายที่ตกค้างจำนวน 40 คน ออกจากพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ในส่วนของสะพานเบลีย์ที่ กม.32+941 สาย ทล. 118 จะทอดเสร็จก่อนเวลา 12.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (5 ส.ค. 2563) โดยในช่วงที่ผ่านมารวมสะพานขาด ทั้งหมด 8 จุด ซึ่งภายในวันนี้ (4 ส.ค. 2563) เวลา 15:30 น. จะแล้วเสร็จ 7 จุด อย่างไรก็ตาม จะทำให้ในวันพรุ่งนี้ เวลา 12.00 น. ถนนสาย ทล.118 เชียงใหม่-เชียงราย จะกลับมาใช้สัญจรไปมาได้ แต่เพื่อความปลอดภัยจะยังไม่ให้สัญจรในช่วงเวลากลางคืน จนกว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ และมีความปลอดภัย

รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) ระบุว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ส.ค.63 ได้สรุปเหตุการณ์อุทกภัยจากพายุซินลากู พบว่า ทางหลวงถูกน้ำท่วม 3 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย, เชียงใหม่และเลย จำนวน 3 สายทาง 7 แห่ง ทางหลวงที่การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง ได้แก่ 1.เชียงราย จำนวน 2 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 118 ตอน ดอยนางแก้ว-แม่สรวย น้ำล้นทางเบี่ยงโครงการก่อสร้างชำรุดเสียหาย ช่วงกม.ที่ 58 และ 61 คาดว่าจะเปิดการจราจรได้วันนี้ (4 ส.ค. 2563) แนะนำใช้เส้นทางเลี่ยงดังนี้ เส้นทางที่ 1 จาก จ.เชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 11 เข้าทางหลวงหมายเลข 1 (ลำพูน-ลำปาง) เข้า พะเยา-เชียงราย, เส้นทางที่ 2 จาก จ.เชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 1001 เข้าทางหลวงหมายเลข 1150 (พร้าว) เข้าทางหลวงหมายเลข 118 (เวียงป่าเป้า) เข้าเชียงราย และ เส้นทางที่ 3 จาก จ.เชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 เข้าทางหลวงหมายเลข 109 (ฝาง) เข้าทางหลวงหมายเลข 118 (แม่สรวย) เข้าสู่เชียงราย

2.เชียงใหม่ 2 แห่ง ทล. 118 ตอน เชียงใหม่-ดอยนางแก้ว น้ำป่าไหลหลากทำให้ถนนทางเบี่ยงบริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานขาด ช่วง กม.ที่ 32 คาดว่าเปิดการจราจรได้วันที่ 5 ส.ค.63 และ กม.35 คาดเปิดการจราจรได้วันที่ 4 ส.ค.63 แนะนำให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ดังนี้ เส้นทางที่ 1 จาก จ.เชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 11 เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1 (ลำพูน-ลำปาง) เข้าสู่พะเยา-เชียงราย, เส้นทางที่ 2 จาก จ.เชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 1001 เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1150 (พร้าว) เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 118 (เวียงป่าเป้า) เข้าสู่เชียงราย และ เส้นทางที่ 3 จาก จ.เชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 109 (ฝาง) เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 118 (แม่สรวย) เข้าสู่เชียงราย

 

3.เลย 1 แห่ง ทล. 2249 ตอน วังแคน-สงเปือย ช่วง กม.ที่ 20 น้ำกัดเซาะคอสะพานขาด คาดว่าเปิดการจราจรได้วันที่ 4 ส.ค.63 แนะนำใช้เส้นทางเลี่ยงจาก จ.เลยใช้ ทล.2249 ถึงประมาณ กม.20 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนท้องถิ่นแล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยมิตรสัมพันธ์ระยะทาง 1.36 กิโลเมตร (กม.) เพื่อออก ทล. 2249 บริเวณ กม.21 ไป อ.ปากชม

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง ทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที นอกจากนี้ ได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง ในบริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.)