“ศักดิ์สยาม” สั่ง “กรมทางหลวง” เร่งซ่อมแซมสะพาน–ถนนขาดหลายจังหวัด หลังเกิดฝนตกหนัก–น้ำป่าทะลัก ระบุรถไม่สามารถสัญจรได้ 8 แห่ง พร้อมแนะใช้ทางเลี่ยง
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีหลายพื้นที่มีฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก ส่งผลให้ถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง (ทล.) ในพื้นที่หลายจังหวัดของประเทศ ได้รับความเสียหายบางพื้นที่ อาทิ ถนนถูกตัดขาด คอสะพานขาด ทำให้ประชาชนในพื้นที่ และบริเวณใกล้เคียงไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้นั้น จึงได้สั่งการให้ ทล. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งแก้ไข ซ่อมแซม ทอดสะพานเบลีย์ (สะพานเหล็ก) รวมถึงแจ้งประชาสัมพันธ์ จัดเจ้าหน้าที่บอกเส้นทางเลี่ยง ให้ประชาชนสามารถสัญจรได้ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งในบางพื้นที่อาจจะต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ตามที่เกิดเหตุฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ (2 ส.ค. 2563) ได้รับรายงานว่า มีทางเบี่ยงสะพานขาด 3 จุดในโครงการก่อสร้าง ทล.118 ตอนดอยสะเก็ด–ป่าเมี่ยง ตอน 2 ที่บริเวณ กม.32+260, กม.32+942, กม.39+880 และในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ในโครงการก่อสร้าง ทล.118 ตอน บ.ปางน้ำถุ–บ.โป่งป่าตอง ตอน 2 ทางเบี่ยงสะพานขาด 2 จุด ประกอบด้วย บริเวณ กม.58+679, กม.61+632
โดยขณะนี้ ทางแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 และเชียงรายที่ 1 ได้ส่งเครื่องจักรเข้าพื้นที่แล้ว และเตรียมวัสดุ เพื่อซ่อมแซม และวางท่อเหลี่ยมเพิ่ม เพื่อคืนสภาพในทุกจุด รวมทั้งการทอดสะพานเบลี่ย์ (สะพานเหล็ก) ที่สะพานขาด คาดว่าจะเปิดเส้นทางให้ประชาชนสัญจรได้ภายในคืนนี้ (2 ส.ค. 2563) ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้สำนักงานเขตทางหลวง แขวงทางหลวงทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยบนทางหลวงนั้น พบว่า ทางหลวงได้ถูกน้ำท่วมจำนวน 6 จังหวัด (10 สายทาง จำนวน 18 แห่ง) ได้แก่ จังหวัดเชียงราย (ทล.118) จังหวัดเชียงใหม่ (ทล.118, ทล.121) จังหวัดน่าน (ทล.101, ทล.1091) จังหวัดเลย (ทล.2108, ทล.2249) จังหวัดหนองบัวลำภู (ทล.210, ทล.2097) และจังหวัดมหาสารคาม (ทล.2322)
ขณะที่ ทางหลวงที่การจราจรไม่สามารถผ่านได้ มี 8 แห่ง ได้แก่ ทล.118 ที่ กม.32+269, กม.32+942, กม.39+880 กม.58+679, กม.61+632, ทล.121 ที่ กม.4+000, ทล.2018 ที่ กม.0+194 และ ทล.2249 ที่ กม.16+250 ทั้งนี้ ผู้ใช้ทางสามารถสอบถามสภาพการจราจรได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรี 24 ชั่วโมง)