‘สีจิ้นผิง’ ชวนสร้างแพลตฟอร์ม AIIB ใหม่ เพื่อประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ

“สีจิ้นผิง” เรียกร้องให้ผลักดัน “ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB)” สู่การเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ส่งเสริมการพัฒนาสำหรับสมาชิกทั้งหมด อำนวยความสะดวกแก่การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ 

รายงานข่าวจากสำนักข่าวซินหัว ระบุว่า สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เปิดเผยในพิธีเปิดการประชุมประจำปีครั้งที่ 5 ของธนาคารเพื่อการพัฒนาแบบพหุภาคี ที่จัดขึ้นทางออนไลน์ โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพยายามผลักดัน ‘เอไอไอบี’ ให้กลายเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาพหุภาคีรูปแบบใหม่ที่ส่งเสริมการพัฒนาทั่วโลก เป็นแพลตฟอร์มการพัฒนารูปแบบใหม่ที่ผันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เป็นสถาบันประสิทธิภาพสูงสำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศลักษณะใหม่ และความร่วมมือพหุภาภีในกระบวนทัศน์ใหม่

ทั้งนี้ เอไอไอบีได้รับการเสนอให้ก่อตั้งขึ้นช่วงปลายปี 2013 ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2016 โดยจากสมาชิกผู้ก่อตั้งที่มี 57 รายกลายมาเป็น 102 รายในปัจจุบัน ซึ่งครอบคลุม 6 ทวีป ทั้งเอเชีย ยุโรป แอฟริกา อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และโอเชียเนีย เอไอไอบีทยอยสร้างความสำเร็จใหม่ๆ เรื่อยมาและได้มอบเงินลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานให้กแก่บรรดาสมาชิกแล้วเกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.28 แสนล้านบาท)

“ความคิดริเริ่มดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมต่อในเอเชียและกระชับความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อการพัฒนาร่วมกัน” สีจิ้นผิง กล่าว

ทิศทางใหม่

“ด้วยจำนวนมิตรสหายและหุ้นส่วนดีที่มีมากขึ้น อันนำมาสู่ความร่วมมือที่มีคุณภาพสูงขึ้น เอไอไอบีจึงได้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาพหุภาคีอย่างมืออาชีพ มีประสิทธิภาพ และโปร่งใส” สีจิ้นผิง กล่าว

นอกจากนี้ สีจิ้นผิง ยังเน้นถึงประเด็นการรับมือกับโรคโควิด-19 ของทั่วโลกว่าทำให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์และความเสื่อมโทรมของมนุษยชาติอย่างชัดเจนในประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ซึ่ง “การสนับสนุนซึ่งกันและกันและความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นนั้นเป็นทางรอดเดียวเหนือวิกฤตทั้งปวงของมวลมนุษย์

ขณะเดียวกัน ยังเรียกร้องให้นานาประเทศดำเนินการกำกับดูแลระดับโลกอย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น ส่งเสริมสถาบันพหุภาคีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และกระชับความร่วมมือระดับภูมิภาคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในยุคโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ

“เอไอไอบีควรมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการการพัฒนาของสมาชิกทั้งหมดและจัดสรรการลงทุนที่มีคุณภาพสูง ต้นทุนต่ำ และยั่งยืนยิ่งขึ้น สำหรับโครงสร้างพื้นฐานทั้งแบบดั้งเดิมและแบบใหม่ โดยสิ่งนี้จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในเอเชียและในภูมิภาคอื่นๆ” สีจิ้นผิง กล่าว

สีจิ้นผิง กล่าวต่ออีกว่า เรียกร้องให้เอไอไอบีปรับปรุงปรัชญาการพัฒนา รูปแบบธุรกิจ และการกำกับดูแลสถาบันอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อการพัฒนาที่ยืดหยุ่นและหลากหลาย เพื่อช่วยยกระดับการเชื่อมต่อ ส่งเสริมการพัฒนาสีเขียว และกระตุ้นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้มีการดำเนินงานเพื่อสร้างความมั่นใจว่าการพัฒนาธนาคารเอไอไอบีสู่การเป็นสถาบันที่มีประสิทธิภาพสูงและรูปแบบใหม่สำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศจะมีมาตรฐานและคุณภาพสูง ทั้งยังแนะนำให้เอไอไอบีรักษาการเปิดกว้างและความครอบคลุมต่อไป เพื่อสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ของความร่วมมือพหุภาคี

ด้าน หลิวคุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของจีน กล่าวว่า สีจิ้นผิงตั้งความหวังกับธนาคารเอไอไอบีไว้สูง และให้คำแนะนำที่เป็นรูปธรรมสำหรับการพัฒนา โดยคำแนะนำเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงแนวคิดและความรับผิดชอบของจีน ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของธนาคารฯ ทั้งยังให้ทิศทางสำหรับการพัฒนาในอนาคตของธนาคาร ซึ่งจีนเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของธนาคารฯ โดยถือครองหุ้นราว 30%

“จีนจะทำงานร่วมกับสมาชิกคนอื่นๆ เพื่อส่งเสริมเอไอไอบีให้เป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาพหุภาคีที่มีประสิทธิภาพสูงในศตวรรษที่ 21 และมีส่วนร่วมมากขึ้นในการกำกับดูแลเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ ยังได้ต้อนรับสมาชิกรายที่ 103 ระหว่างการประชุมประจำปีด้วย” หลิว กล่าว

ขณะที่ สวีซิ่วจวิน นักวิจัยจากสถาบันสังคมศาสตร์แห่งจีน (CASS) กล่าวว่า การจัดการประชุมประจำปีของเอไอไอบีมีความจำเป็นอย่างยิ่งในขณะนี้ เนื่องจากจะช่วยระดมความพยายามจากนานาชาติในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันในภูมิภาค และเปิดช่องให้แรงขับเคลื่อนใหม่ๆ ต่อเศรษฐกิจโลก

ยึดมั่นพหุภาคีนิยม

“จีนสนับสนุนและปฏิบัติตามแนวคิดพหุภาคีเสมอมา ทั้งยังแสวงหาการพัฒนาส่วนที่เหลือของโลกด้วยจิตวิญญาณแห่งการเปิดกว้างและความร่วมมือที่ให้ประโยชน์แก่ทุกฝ่าย จีนจะยังคงทำงานร่วมกับสมาชิกรายอื่นๆ ต่อไปเพื่อสนับสนุนและสร้างความสำเร็จแก่เอไอไอบี และมีส่วนร่วมมากขึ้นในการรับมือกับความเสี่ยงและความท้าทายระดับโลก รวมถึงแสวงหาการพัฒนาร่วมกัน” สีจิ้นผิง กล่าว

สีจิ้นผิง ยังพูดถึงการตอบสนองอย่างรวดเร็วของธนาคารฯ ในการจัดตั้งศูนย์กู้วิกฤตโควิด-19 เพื่อสนับสนุนสมาชิกในการยับยั้งไวรัสและฟื้นฟูเศรษฐกิจของพวกเขาเมื่อเผชิญกับโรคระบาดโควิด-19 และเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของพลังแห่งการกระทำของเอไอไอบี

สวีซิ่วจวิน กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาพหุภาคีที่มีประสิทธิภาพ เอไอไอบีได้จัดสรรความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งแก่บรรดาสมาชิกในการแก้ไขวิกฤตการระบาดใหญ่และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

“สถาบันนี้ได้เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับกลไกพหุภาคีและเพิ่มความเชื่อมั่นแก่ประชาคมระหว่างประเทศในเรื่องพหุภาคี” สวีซิ่วจวิน กล่าว

“ข้อเท็จจริงล้วนพิสูจน์ให้เห็นว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากการเลือกของจีนเท่านั้น แต่ยังเกิดจากฉันทามติของประชาคมระหว่างประเทศที่มุ่งสนับสนุนและปฏิบัติตามแนวคิดพหุภาคีด้วย” หลิว กล่าว